วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

            



1.       จงอธิบายวิธีการแปรรูปและถนอมอาหาร พร้อมยกตัวอย่าง
2.       จงยกตัวอย่างอาหารสำเร็จรูปในชุมชนของท่าน พร้อมนำเสนอช่องทางการจำหน่ายและ แนวทางการหาตลาด
3.       จงอธิบายหลักการเลือกผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปตามหลักสุขาภิบาลอาหาร
4.       จงอธิบายวิธีการจัดสถานที่จำหน่ายและคลังสินค้าตามหลักสุขาภิบาลอาหาร
5.       น่าเสนอโครงงานจัดตั้งธุรกิจจำหน่ายอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารตามที่ท่านสนใจ



                                                      กิจกรรมท้ายบทเรียน


เขียนตอบคำถามด้านล่างในกระดาษและนำเสนอในชั้นเรียน

     1.  ความสำคัญในการตระหนักรู้ในตนเองมีผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างไร
     2.เราสามารถจัดการคับอารมณ์โกรธได้อย่างไร
            3.ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร และเราสามารถจัดการคับความเครียดทำได้อย่างไร

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

แบบทดสอบหลังเรียน รายวิชา ทช 31002

9.1 ลักษณะธุรกิจผลิตอาหารสำเร็จรูป



หน่วยที่ 9 อาชีพจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปตามหลักสุขาภิบาล


เรื่องที่ 1 ลักษณะธุรกิจผลิตอาหารสำเร็จรูป

(เนื้อหา) 9.1 ประเทศไทยมีผลผลิตจาการเกษตรกรรมประเภทอาหารที่หลากหลาย ซึ่งขึ้นอยู่กับศักยภาพ แต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกันไป การนำผลผลิตจาการเกษตรมาแปรรูปเป็นผลิตกัณฑ์อาหารสำเร็จรูป แล้ว กระจายสินค้าสู่ตลาดผู้บริโภคตลาดภายในประเทศ ตลาดอาเซียน และตลาดในภูมิภาคอื่นทั่วโลก เป็นอีก ช่องทางหนึ่งที่ทำให้เกิดอาชีพสำหรับผู้ที่สนใจ

การถนอมอาหารในป้จจุบันใช้วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีเพื่อแปรรูปวัตถุดิบจำนวนมากพร้อม ๆ กันเป็นผลิตกัณฑ์อาหารสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป หรือปรับปรุงกรรมวิธีการถนอมอาหารสมัยโบราณให้ ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีขึ้น ทั้งในด้านความสะอาด สี กลิ่น รส เนื้อสัมผัส และเพื่อยืดอายุการเก็บอาหาร นั้นให้ได้นาน เทคโนโลยีการถนอมผลิตผลการเกษตรต้องอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ความรู้พื้นฐานทางสังคมธุรกิจและการจัดการควบคู่กับความ!ในการแปรรูปผลิตผลการเกษตร ให้เป็นผลิตกภัณฑ์ ชนิดใหม่ หรือปรับปรุงของเดิมให้ดียิ่งขึ้นทั้งในลักษณะที่มองเห็นหรือสัมผัสได้ เช่น สี กลิ่น ความนุ่ม ความเหนียว เป็นด้น รวมทั้งสิ่งที่มองไม,เห็น เช่น คุณค่าทางโภชนาการ เป็น9ต้น

ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป หมายถึง อาหารที่ได้ผ่านขึ้นตอนการหุงต้ม หรือกระบวนการ แปรรูป ผลิตผลการเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีเพื่อให้อาหารพื้นสามารถเก็บได้เป็นเวลานานพอสมควรโดยไม่เน่าเสีย สามารถดื่มหรือรับประทานได้ทันทีเมื่อต้องการจะอุ่นหรือไม,อุ่นให้ร้อนค่อนรับประทานก็ได้ ผลิตกัณฑ์ประเภทนี้รู้จักกันแพร่หลาย คือ อาหารบรรจุกระป้อง เช่น สับปะรดกระป้อง หรือบรรจุกล่อง เช่น นมสด เป็นด้น

ผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูป หมายถึง อาหารที่ได้ผ่านขึ้นตอนการหุงต้มหรือกระบวนการ แปรรูปแล้ว และสามารถเก็บไว้ได้นานเช่นเดียวกัน จะต้องนำไปหุงต้มและปรุงรสหรือปรุงแต่งก่อนจึงจะ รับประทานได้ เช่น น้ำผลไม้เข้มข้น ซึ่งต้องผสมน้ำก่อนดื่ม น้ำพริกแกง เป็นด้น

การแปรรูปหรือการถนอมอาหาร โดยหลักใหญ่ คือ การทำลายหรือฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่มีอยู่หรือ อาจเกิดขึ้นในอาหาร และทำให้เกิดการเน่าเสียให้หมดไป ป้จจุบันผลิตผลการเกษตรมีมากขึ้น และ ประชากรมากขึ้นจึงได้มีการศึกษาค้นคว้าและทดลองใช้เทคโนโลยี เพื่อถนอมผลิตผลการเกษตรให้ สามารถเก็บไว้ได้นาน เช่น การใช้ความร้อนจากไอน้ำเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในการทำอาหารกระป้อง การ ใช้รังสีแกมม่าเพื่อยับยั้งหรือทำลายปฏิกิริยาของเอนไซม์ทำให้การเปลี่ยนแปลงทางเคมีช้าลง และยังเป็น การทำลายการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์อีกด้วย ในที่นี้จะกล่าวถึงกรรมวิธีการถนอมอาหารที่ใช้กันมากใน ป้จจุบัน คือ

- การถอมอาหารโดยใช้ความร้อนสูง เช่น ผลิตกัณฑ์อาหารกระป้อง เป็นต้น

- การถนอมอาหารโดยใช้ความเย็น เช่น ผลิตกัณฑ์อาหารเยือกแข็ง เป็นต้น

- การถนอมอาหารโดยการทำให้แห้ง เช่น ปลาหยอง กาแฟผง เป็นต้น

- การถนอมอาหารโดยการหมักดอง เช่น ซีอิ้ว นั้าสัมสายชู เป็นต้น

- การถนอมอาหารโดยใช้รังสี เช่น หอมหัวใหญ่อาบรังสี เป็นต้น

เรื่องที่ 1 การถนอมอาหารโดยใช้ความร้อนสูง

ภาชนะบรรจุไต้มีการปรับปรุงพัฒนามาโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทำจากดีบุก ต่อมาดีบุกหายากและ แพงขึ้น จึงใช้กระป้องที่ทำด้วยแผ่นเหล็กเคลือบผิวทั้งสองต้านด้วยดีบุกทำให้ประหยัดปริมาณของดีบุกที่ ใช้ได้มาก ขณะเดียวกันก็ได้มีการใช้กระป้องที่ทำจากอลูมิเนียมซึ่งทั้งหนักเบาแต่,มีช้อเสีย คือ บุบง่าย ส่วนมากจึงใช้ทำกระป้องเพื่อบรรจุน้ำผลไม้ หรือ เครื่องดื่ม หรือ นมสด แต่การใช้กระป๋องอลูมิเนียม ไม่แพร่หลายเท่ากับกระป๋องที่ทำจากแผ่นเหล็กเคลือบดีบุก นอกเหนือจากภาชนะจะเป็นส่วนประกอบที่ สำคัญในการถนอมผลิตผลการเกษตรแล้วประเภทของอาหารก็มีความสำคัญมาก รวมถึงการใช้ความร้อนก็มีความสำคัญซึ่งต้องรู้ว่าจะใช้ความร้อนสูงเท่าใดในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ใน อาหารที่ต้องการเก็บรักษา เนื่องจากการถนอมผลิตผลทางการเกษตร โดยความร้อนจะเปลี่ยนสภาพของ อาหารจากสดเป็นอาหารสุกที่พร้อมจะรับประทานได้ ดังนั้น จึงมีการเติมเครื่องปรุงต่าง ๆ หรือเปลี่ยน สภาพเป็นผลิตกัณฑ์อาหารชนิดใหม่ ซึ่งในป้จจุบันเรียกว่า "การแปรรูปอาหาร" ส่วนประกอบอาจจะมีทั้ง เนื้อสัตว์ ผักและเครื่องเทศ สำหรับอาหารคาวหรือล้าเป็นอาหารหวาน เช่น ผลไม้บรรจุในนั้าเชื่อม เป็นต้น กรรมวิธีการผลิตอาหารกระป้องหรืออาหารในขวดแก้ว จำเป็นต้องใช้ความร้อน เพื่อทำให้อาหาร ที่บรรจุภายในสุก และเพื่อทำลายเชื้อจุลลินทรีย์ ความร้อนที่ใช้จะต้องสัมพันธ์กันเพราะล้าใช้ความร้อน สูงเกินไป อาจจะทำให้อาหารที่บรรจุในกระป้อง/ขวดนิ่มและไม,น่ารับประทาน ล้าความร้อนตํ่าเกินไป อาจจะมีจุลินทรีย์หลงเหลืออยู่ซึ่งจะทำให้อาหารนั้นเสีย เกิดกระป้องบวมและระเบิดไต้ในที่สุด การถนอม อาหารโดยใช้ความร้อน หมายถึง การฆ่าเชื้อในอาหารที่บรรจุในภาชนะที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันการเสื่อม สลายหรือเน่าเสียที่เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์หรือจากการปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ในอาหาร การฆ่าเชื้อโดยความ ร้อนม 3 ระดับ คอ การฆ่าเชื้อ (Sterilization) การฆ่าเชอระดับการค้า (Commercially sterilization) และ การฆ่าเชื้อแบบปาสเตอร์ (Pasteurization)

การฆ่าเชื้อ หมายถึง การถนอมอาหารโดยใช้ความร้อนสูงภายใต้ความดัน เพื่อให้จุลินทรีย์ที่มีอยู่ ทั้งหมดถูกทำลาย

การฆ่าเชื้อระดับการค้า หมายถึง การถนอมอาหารโดยใช้ความร้อนสูงเพื่อทำลายจุลินทรีย์ที่มีอยู่ ในอาหารเกือบทั้งหมด เพื่อให้อาหารนั้น ๆ สามารถบริโภคไต้โดยไม,เป็นอันตราย และสามารถเก็บไว้ไต้ นานโดยไม,เน่าเสียในภาวะปกติ

การฆ่าเชื้อแบบปาสเตอร์ หมายถึง การถนอมอาหารโดยใช้ความร้อนตํ่ากว่าอุณหภูมิของนั้าเดือด (ตํ่ากว่า 100° C) เพื่อทำลายจุลินทรีย์บางส่วน ทั้งนี้ต้องดำเนินควบคู่กับสภาวะอย่างอื่น เช่น ควรเก็บใน ตู้เย็นภายหลังการผลิตแล้ว หรืออาหารนั้นมี พีเอชตํ่า หรือมีปริมาณนั้าตาล หรือเกลือสูง

นักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ได้แบ่งกลุ่มอาหารที่บรรจุในภาชนะที่ปิดสนิทเป็น กลุ่มใหญ่ ๆ ไว้ 2 กลุ่ม คือ \

1.กลุ่มอาหารที่เป็นกรด (Acid foods) คือ อาหารที่มีค่า PH ตํ่ากว่า 4.5 ส่วนมากเป็นพวกผลไม้ เช่น สับปะรด สัม หรือผักที่มีรสเป้รี่ยว เช่น มะเขือเทศ กระเจี๊ยบแดง เป็นด้น
2.กลุ่มอาหารที่เป็นกรดตํ่า (Low acid foods) คือ อาหารที่มีค่า พีเอช 4.5 หรือสูงกว่า ส่วนมากจะ เป็นอาหารจำพวกเนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ เช่น เนื้อ หมู ปลา ข้าวโพดแกอ่อนและหน่อไม้ฝรั่ง เป็นด้น



กระป๋องใช้บันจุ



โรงงานทำสับปะรดกระป๋อง

ตัวอย่างขั้นตอนการทำอาหารกระป๋อง

1.รับซื้อวัตถุดิบ
2.ล้าง ตัดแต่ง
3.คัดเลือกขนาด, จัดระดับ
4.ลวก
5.บรรจุกระป้อง/ขวด
6.เดิมนี้าบรรจุลงในกระป้อง/ขวด <- เตรียมเครื่องปรุงหรือนี้าบรรจุ
7.ไล่อากาศ
8.ปิดผนึก
9.ฆ่าเชื้อด้วยความร้อน
10ทำให้กระป้องเย็น
11.ปิดฉลาก
12.บรรจุหีบ/กล่อง
13.ห้องเก็บ
14.ส่งขาย
15.ผู้บริโภค
1.1เครื่องมือที่ใช้เกี่ยวกับการผลิต

โดยทั่วไปเครื่องมือเครื่องใช้และเครื่องจักรเกี่ยวคับกรรมวิธีการผลิตอาหารกระป้องต้องไม,เป็น อันตรายต่อสุขภาพ และต้องอยู่ในสภาพที่สะอาดเสมอ ภาชนะที่ใช้ไต้หลายครั้งต้องทำด้วยวัสดุที่ไม,เป็นพิษ และออกแบบให้ทำความสะอาดไต้ง่ายเพื่อป้องคันมิให้มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ วัสดุที่ใช้ทำภาชนะต่าง ๆ ควรเป็นวัสดุที่มีผิวเรียบ ไม,มีรอยแตกหรือกะเทาะล่อน ไม,เป็นพิษ ไม,ทำปฏิกิริยาคับอาหาร ควรเป็นวัสดุที่ ล้างและทำความสะอาดไต้ง่าย ไม,เป็นวัสดุที่ดูดซึมง่าย ยกเว้นเพื่อวัตถุประสงค์บางประการที่จำเป็นต้องใช้ เช่น ถังไม้ในการหมักไวน์ในสถานที่ผลิตอาหารสำเร็จรูปจะมีเครื่องมือ เครื่องใช้และเครื่องจักรแตกต่างคัน ออกไปแล้วแต่ประเภทและชนิดของผลิตภัณฑ์แต่ส่วนใหญ่แล้วแบ่งออกไต้เป็น 3 ประเภท คือ

1.1.1เครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในกรรมวิธีการผลิต


เครื่องมือ เครื่องใช้นี้เป็นสิ่งจำเป็นของผู้ประกอบกิจการการอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารไม,ว่า ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตอาหารกระป้อง

1.เครื่องชั่ง ตวง วัด ใช้ในการชั่งนี้าหนักหรือปริมาตรของสิ่งต่าง ๆ เช่น วัตถุดิบ เครื่องปรุงอาหาร เครื่องชั่ง ตวง วัด ควรจะมีหลาย ๆ ขนาด
2.เครื่องวัดอุณหภูมิ เป็นของจำเป็นมากในการผลิต จะต้องมีการควบคุมและตรวจสอบ อุณหภูมิตามขั้นตอนต่าง ๆ ระหว่างผลิตอยู่ตลอดเวลา
3.เครื่องมือวัดปริมาณเกลือ
4.เครื่องมือวัดปริมาณนี้าตาล
5.เครื่องมือวัดความเป็นกรด-ด่าง
6.เครื่องมือวัดความร้อนของอาหารที่บรรจุในกระป้อง (Heat penetration equipment) เพื่อคำนวณหาเวลาที่จะต้องใช้ในการฆ่าเชื้อหลังจากบรรจุและปิดฝากระป้องแล้ว เครื่องมือที่ใช้ในการนี้ เรียกว่า เทอร์มอคัปเปิล (Thermocouples) ซึ่งใช้วัดอุณหภูมิ ณ จุดที่ความร้อนเช้าถึงช้าที่สุดของกระป้อง
7.เครื่องมือวัดขนาดของตะเข็บกระป้อง ลักษณะของการเกี่ยวกันระหว่างขอฝา (Cover hook) และขอของตัวกระป้อง (Body hook) เป็นสิ่งสำคัญมาก ล้าไม,เป็นไปตามมาตรฐาน อาจจะทำให้กระป้อง
8.เครื่องมือตรวจความตันในกระป้อง ทดสอบว่ากระป้องจะรั่วหรือไม, โดยสูบลมอัดเช้า ไปในกระป้องจนได้เปล่งความตันที่ต้องการแล้วจุ่มกระป้องลงในนี้า ล้ากระป้องรั่วจะมีฟองอากาศผุด ออกมาตามรอยตะเข็บซึ่งจะต้องทำการปรับเครื่องปิดฝากระป้องให้เช้าที่


2.2.2เครื่องมือเครื่องจักรตามขั้นตอนของการผลิต
เครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในการทำอาหารกระป้องแบ่งออกตามขั้นตอนของการผลิต ประกอบด้วย

-การล้าง เตรียม และตัดแต่งวัตถุดิบ
-การลวก
-การหุงต้ม
-การบรรจุ
-การไล่อากาศ
-การปิดฝา
-การทำลายเชื้อจุลินทรีย์
3.3.3เครื่องมือเครื่องจักรตามประเภทของผลิตภัณฑ์ เครื่องมือเครื่องจักรอาจแตกต่างกันไปตาม ประเภทของอาหารที่จะผลิต เช่น เครื่องมือ เครื่องจักรสำหรับทำสับปะรดกระป้องย่อมจะแตกต่างกับ เครื่องมือเครื่องจักรของโรงงานทำปลากระป้อง

การทำความสะอาดสถานที่ผลิตอาหาร

ในแง,ของ "สุขลักษณะ" จะต้องคำนึงถึงเชื้อจุลินทรีย์มากที่สุดเพราะจะทำให้เกิดอันตรายอย่าง มากต่อสุขภาพของผู้บริโภค จึงต้องมีการควบคุมปริมาณจุลินทรีย์ซึ่งต้องทำทั้งกับคนและเครื่องมือ คือ

1.ป้องกันมิให้สัตว์และแมลงมีโอกาสสัมผัสกับอาหาร
2.ควรใส่เสื้อกันเปีอน ซึ่งเสื้อนี้จะป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ จากเสื้อผ้าหรือตัวผู้ทำอาหารหรือ เสิร์ฟอาหาร และสวมหมวกหรือมีผ้าคลุมผมเพื่อป้องกันไม,ให้ผมหล่นลงในอาหาร
3.รักษาเครื่องจักร เครื่องมือ โต๊ะเตรียมอาหาร อ่างนำ ห้องเตรียมอาหารให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเศษอาหารหลงเหลืออยู่ ซึ่งจะเป็นอาหารเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ให้เจริญเติบโตได้
4.เศษอาหารควรทิ้งทุกวัน
5. ห้องเก็บวัตถุดิบ ห้องเก็บของ ตู้เย็น ห้องเย็น ควรจะสะอาด
6.เครื่องจักร และเครื่องมือต่าง ๆ ควรวางหรือเก็บให้เป็นที่เพื่อจะทำงานสะดวกและป้องกันการ
เสียหาย
7.มีห้องนํ้าพอเพียงเพื่อป้องกันความสกปรกของคนงาน
8.ตรวจสุขภาพของคนงานเป็นประจำทุกปี
9.ผู้ผลิตควรจะร่วมมือกับ "ผู้ตรวจสอบ" ของรัฐบาล เพื่อคำแนะนำและความร่วมมือที่ดีควรจะแก้ไขจุดต่าง ๆ ตามที่ "ผู้ตรวจสอบ" แนะนำ

10.การทำลายเศษอาหาร กาก และส่วนที่เหลือจากโรงงาน การระบายนาเสียนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะนํ้าเสียย่อมจะทำให้เกิดผลเสียได้สองแง, คือ

1.ความสะอาดและความปลอดภัยในการประกอบกิจ เพราะถ้าสิ่งแวดล้อมสกปรกย่อมจะเกิด การเจือปนขึ้นได้ง่าย
2.ความปลอดภัยสำหรับผู้อยู่ใกล้เคียง การระบายนํ้าและมีเศษอาหารอยู่ย่อมเป็นที่รบกวนแก,
ผู้อาศัยใกล้เคียงได้ โดยเฉพาะการปล่อยของเสียลงในนํ้าย่อมก่อให้เกิดความลำบาก และยุ่งยากต่อผู้อยู่ ปลายทาง

เรื่องที่ 2 การถนอมอาหารโดยใช้ความเย็น


การให้ความเย็น (Refrigeration) หมายถึง กรรมวิธีการกำจัดความร้อนออกจากสิ่งของหรือพื้นที่ ที่ด้องการทำให้เย็นหรือต้องการให้มีอุณหภูมิลดลง ซึ่งการทำให้เย็นลงนี้แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ

การแช่เย็น (Chilling) หมายถึงการทำให้อุณหภูมิของสิ่งของนั้นลดลง แต่อยู่เหนือจุดเยือกแข็ง ของสิ่งนั้น โดยของสิ่งนั้นยังคงสภาพเติมอยู่ เช่น การแช่เย็นอาหารจะเป็นการลดอุณหภูมิของอาหารตํ่าลง แม้ที่ -1° C แต่ต้องไม,ทำให้นั้าหรือองค์ประกอบในอาหารนั้นแปรสภาพหรือแข็งเป็นนั้าแข็ง
การแช่แข็ง (Freezing) หมายถึงการทำให้อุณหภูมิของสิ่งของนั้นลดตํ่าลงกว่าจุดเยือกแข็งของ สิ่งนั้น (-1 ถึง -40° C) การแช่แข็งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนสภาพขององค์ประกอบในสิ่งของ เช่น ในกรณีที่ เป็นอาหาร ความเย็นจัดจะทำให้นั้าในเนื้อเยื่อของอาหารแปรสภาพเป็นนั้าแข็ง ทำให้จุลินทรีย์ไม,อาจ นำไปใช้ได้ แต่ความเย็นจัดไม,ได้ทำลายจุลินทรีย์ให้ตาย
จุดเยือกแข็ง (Freezing point) คือ อุณหภูมิที่เกิดภาวะสมดุลระหว่างของแข็งกับของเหลว ณ ความกดมาตรฐาน 1 บรรยากาศ หรืออุณหภูมิที่ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง ณ ความกดมาตรฐาน 1 บรรยากาศ

การถนอมอาหารด้วยความเย็นมีหลายวิธี

1.การใช้นํ้าแข็ง ความเย็นของนํ้าแข็งที่ใช้ในการแช่อาหารจะลดอุณหภูมิของอาหารได้เร็ว และ ถ้ามีปริมาณนํ้าแข็งเพียงพอก็จะทำให้อาหารนั้นเย็นลงจนมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับ 0° C

2.การใช้สารผสมแช่แข็ง การใช้นั้าแข็งผสมเกลือแกงหรือเกลืออนินทรีย์อื่น ๆ จะทำให้ได้ สารผสมที่มีอุณหภูมิตํ่ากว่า 0° C
3.การใช้นํ้าแข็งแห้ง นั้าแข็งแห้ง คือ คาร์บอนไดออกไซด์ที่เย็นจนแข็ง มีอุณหภูมิ
ประมาณ 80° C ใช้ในการเก็บรักษาอาหารที่ผ่านการแช่แข็งมาแล้ว เหมาะสำหรับการขนส่งในระยะเวลา 2-3 วัน
4.การใช้ในโตรเจนเหลว ไนโตรเจนเหลวที่ความดันปกติจะระเหยกลายเป็นไอที่
อุณหภูมิ 196° C ณ อุณหภูมินี้เป็นอุณหภูมิตํ่าสุดที่สามารถทำให้อาหารเย็นลงได้อย่างรวดเร็ว และ เนื่องจากไนโตรเจนเป็นแก๊สเฉื่อย ไม,เป็นอันตรายกับอาหารและผู้บริโภค
5.การใช้เครื่องทำความเย็น เครื่องทำความเย็นที่ใช้กันโดยทั่วไป โดยเฉพาะตามบ้านเรือน คือ
ตู้เย็น เรื่องที่ 3 การถนอมอาหารโดยการทำแห้ง
หลักการในการทำแห้งมีหลายวิธี คือ
1.ใช้กระแสลมร้อนสัมผัสกับอาหาร เช่น ตู้อบแสงอาทิตย์ ตู้อบลมร้อน (Hot air dryer) เป็นต้น
2.พ่นอาหารที่เป็นของเหลวไปในลมร้อน เครื่องมือที่ใช้คือ เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย (Spray dryer)



3) ให้อาหารข้นสัมผัสผิวหน้าของลูกกลิ้งร้อน เครื่องมือที่ใช้คือ เครื่องอบแห้งแบบลูกกลิ้ง (Drum dryer หรอ Roller dryer)

4.กำจัดความชื้นในอาหารในสภาพที่ทำน้ำให้เป็นน้ำแข็งแล้วกลายเป็นไอในห้องสูญญากาศซึ่งเป็นการทำอาหารแห้งแบบเยือกแข็งโดยเครื่องอบแห้งแบบเยือกแข็ง(Freeze dryer)
หลักในการทำอาหารให้แห้ง คือ จะต้องไถ่นี้าหรือความชื้นที่มีอยู่ในผลิตผลการเกษตรออกไป แต่,จะยังมีความชื้นเหลืออยู่ในผลิตภัณฑ์มากน้อยแล้วแด,ชนิดของอาหารการถ่ายเทความร้อน จะเกิดตรงจุดที่มีความแตกต่างของอุณหภูมิ คือ อุณหภูมิของเครื่องมือที่ใช้ ในการอบ และอาหารที่ต้องการทำให้แห้ง การถ่ายเทความร้อนมี 3 แบบ คือ
1.การนำความร้อน เป็นการถ่ายเทความร้อนจากโมเลกุลหนึ่งไปยังอีกโมเลกุลหนึ่งที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งจะเกิดกับอาหารที่มีลักษณะเป็นของแข็ง
2.การพาความร้อน จะเกิดกับอาหารที่เป็นของเหลว โดยกระแสความร้อนจะถูกพาผ่านช่องว่างที่ เป็นอากาศหรือแก๊สจากของเหลวชนิดหนึ่งไปยังของเหลวอีกชนิดหนึ่ง
3.การแผ่รังสี เป็นการถ่ายเทความร้อนโดยการแผ่รังสีความร้อนไปยังอาหารซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณี อบอาหารในสุญญากาศ และการอบแห้งแบบเยือกแข็ง
ในท  างปฏิบัติ การถ่ายเทความร้อนในการอบแห้งอาจเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 หรือ 3 แบบก็ไต้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของอาหารที่นำไปอบแห้งการเคลื่อนที่ของนํ้าในอาหาร น้ำหรือความชื้นจะเคลื่อนที่มาที่ผิวหน้าของอาหารเมื่อไต้รับความ ร้อนในระหว่างการอบ เครื่องอบแห้งเครื่องมือที่ใช้ในการอบอาหารจำนวนมากในคราวเดียวกันให้แห้งนี้นมีหลายแบบ แด,ละแบบก็มี หลายขนาด

1) ตู้อบหรือโรงอบที่ใช้ความร้อนจากแสงอาทิตย์ โดยมีหลักการทำงานคือ ตู้หรือโรงอบ ประกอบด้วยแผงรับแสงอาทิตย์ ซึ่งทำด้วยวัสดุใส เมื่อแสงอาทิตย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรังสีคลื่นสั้น ตกลงบน แผงรับแสงนี้แล้วจะทะลุผ่านไปยังวัสดุสีดำ ภายในตู้และเปลี่ยนเป็นรังสีความร้อน ซึ่งความร้อนนี้จะไป กระทบกับอาหารทำให้นี้าในอาหารระเหยออกมา และผ่านออกไปทางช่องระบายอากาศของตู้อบ หรือ โรงอบ มีผลทำให้อาหารแห้ง ในระหว่างการอบควรกลับผลิตกัณฑ์นั้น วันละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ผิวหน้าของ ผลิตกัณฑ์ทุกส่วนไต้สัมผัสกับความร้อน ทำให้แห้งเร็วและสมํ่าเสมอ ส่วนมากตู้อบแสงอาทิตย์นี้จะใช้กับ พวกผัก ผลไม้ และธัญพืช ข้อดีสำหรับการใช้ตู้อบที่ใช้ความร้อนจากแสงอาทิตย์ คือ

-ไต้ผลิตกัณฑ์สีสวย และสมํ่าเสมอ

-สะอาดเพราะสามารถควบคุมไม,ให้ผ่นละอองหรือแมลงเข้าไปไต้

-ใช้เวลาน้อยกว่าการตากแดดตามธรรมชาติทำให้ประหยัดเวลาในการตากได้ ประมาณหนึ่งในสาม

-ประหยัดพื้นที่ในการตาก เพราะในตู้อบสามารถวางถาดที่จะใส่ผลผลิตได้หลายถาดหรือหลายชั้นประหยัดแรงงาน เพราะไม,ต้องเก็บอาหารที่กำลังตากเช้าที่ร่มในตอนเย็นและ เอาออกตากในตอนเช้าเหมือนสมัยก่อน ซึ่งมีผลทำให้ด้นทุนในการผลิตอาหารแห้งลดลง

เครื่องอบแห้งด้วยลมร้อนแบบตู้










2) เครื่องอบแห้งที่ใช้ความร้อนจากแหล่งอื่น ความร้อนที่ใช้กับเครื่องอบประเภทนี้ส่วนมากจะได้ จากกระแสไฟฟ้า หรือแก๊ส ส่วนมากใช้ในระดับอุตสาหกรรมซึ่งมีหลายแบบหลายขนาด โดยใช้หลักการ ที่แตกต่างกันแล้วแต่ประโยชน์ของการใช้สอย เช่น

2.1เครื่องอบแห้งด้วยลมร้อนแบบตู้หรือถาด ตู้อบบุด้วยวัสดุที่เป็นฉนวนมีถาดสำหรับ วางอาหารที่จะอบ เครื่องมือชนิดนี้จะใช้อบอาหารที่มีปริมาณน้อย หรือสำหรับงานทดลอง
2.2เครื่องอบแห้งด้วยลมร้อนแบบต่อเนื่อง มีลักษณะคล้ายอุโมงค์ นำอาหารที่ด้องการ อบแห้งวางบนสายพานที่เคลื่อนผ่านลมร้อนในอุโมงค์ เมื่ออาหารเคลื่อนออกจากอุโมงค์ก็จะแห้งพอดี ตัวอย่างอาหาร เช่น ผัก หรือ ผลไม้อบแห้ง เป็นด้น
2.3เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย การทำงานของเครื่องอบแบบนี้ คือ ต้องฉีดของเหลวที่ ต้องการทำให้แห้งพ่นเป็นละอองเช้าไปในตู้ที่มีลมร้อนผ่านเช้ามา เช่น กาแฟผงสำเร็จรูป ไข,ผง นี้าผลไม้ ผง ซุบผง เป็นด้น
2.4เครื่องอบแห้งแบบลูกกลิ้งเครื่องทำแห้งแบบนี้ให้ความร้อนแบบนำความร้อน ซึ่งประกอบด้วยลูกกลิ้งทำด้วยเหล็กปลอดสนิม อาหารที่จะทำแห้งต้องมีลักษณะข้นและป้อนเช้าเครื่อง ตรงผิวนอกของลูกกลิ้งเป็นแผ่นพ่ล์มบาง ๆ ความร้อนจะถ่ายเทจากลูกกลิ้งไปยังอาหาร
2.5เครื่องอบแห้งแบบเยือกแข็ง ประกอบด้วยเครื่องที่ทำให้อาหารเย็นจัด (freezer) แผ่น ให้ความร้อนและตู้สุญญากาศ หลักการในการทำแห้งแบบนี้ คือ การไล่นี้าจากอาหารออกไปในสภาพ







แบบทดสอบก่อนเรียน

กิจกรรมท้ายบทหน่วยที่ 8

กิจกรรม
เขียนตอบคำถามด้านล่างในกระดาษและนำเสนอในชั้นเรียน
1.      ความสำคัญในการตระหนักรู้ในตนเองมีผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างไร
2.      เราสามารถจัดการคับอารมณ์โกรธได้อย่างไร
3.      ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร และเราสามารถจัดการคับความเครียดทำได้อย่างไร

9.3 คุณสมบัติร้านที่จำหน่ายอาหารสำเร็จรูป

การจัดตกแต่งร้านและการจัดวางสินค้าอาหารสำเร็จรูปตามหลักสุขาภิบาล การจัดตกแต่งร้านค้า มีความสำคัญค้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1. แสงสว่างภายในร้าน แสงสว่างธรรมชาติมักไม,เพียงพอและแสงแดดมักทำความเสียหาย ให้แก,สินค้า การใช้แสงไฟฟ้า แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงแต่ก็จูงใจลูกค้าให้เช้ามาซื้อสินค้าไต้มากกว่าร้านที่
ดูมั่วชั่ว ในร้านควรเลือกใช้แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ ก่อนตัดสินใจเรื่องแสงสว่างควรเว่าค่าไฟฟ้า จะเป็นสักเท่าใด และต้องใช้จำนวนกี่ดวงถึงจะคุ้มค่ากับการขายสินค้าด้วย
2. การตกแต่งสีภายนอกและภายในร้าน นอกจากการทาสีร้านค้าให้สดใสสว่าง สวยงามแล้ว สีของหีบห่อ และตัวสินค้าก็สามารถนำมาตกแต่งให้ร้านค้าลูดีขั้นจะต้องให้ผู้คนเห็นสินค้า ชัดเจนและ สวยงาม
3. การจัดวางสินค้าบริเวณทางเข้าร้านใกล้ๆ ทางเข้าร้าน เป็นที่เหมาะสำหรับจัดวางสินค้าที่ ต้องการเสนอขายเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่ที่ลูกค้าทุกคนต้องเดินผ่านเข้าออก จึงต้องจัดสินค้าไว้บริเวณนี้ให้ เตะตาจริง ๆ โดยเฉพาะบริเวณโต๊ะชำระเงินที่ลูกค้าเข้าแถวรอที่จะชำระเงิน ควรหาของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ลูกค้าอาจลืมซื้อมาจัดวางไว้
4. การจัดหมวดหมู่ของสินค้า สินค้าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน หรือใช้ร่วมกันจะต้องจัดวางไว้ ด้วยกัน เช่น นี้าดื่ม เครื่องดื่มประเภทนี้าอัดลม ประเภทขนมปงสดและเบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น
5. การติดป้ายบอกประเภทของสินค้า เพื่อให้เว่าสินค้าอยู่ที่ใด เป็นการติดป้ายบอกชนิดของ สินค้าตามที่จัดไว้ เป็นหมวดหมู,แล้วเพื่อสะดวกในการค้นหาสินค้าตามที่ลูกค้าต้องการ อาจจะติดไว้ตาม ผนังห้อง และกึ่งกลางเหนือชั้นวางของ สินค้าใดวาง ณ จุดใด ควรวางอยู่เป็นประจำ และไม,ควร เปลี่ยนแปลงที่วางสินค้าบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ลูกค้าต้องเสียเวลาค้นหาในครั้งต่อไปที่แวะเช้ามาซื้อ สินค้าที่ร้าน
6. การติดป้ายราคาสินค้า ป้จจุบันลูกค้าส่วนใหญ่มักสนใจในรายละเอียดของสินค้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งรูปแบบของบรรจุกัณฑ์ ชื่อสินค้า คำแนะนำการใช้ผลิตกัณฑ์นั้นๆ วันผลิตและวันหมดอายุ ดังนั้น จะต้องติดป้ายบอกราคาเพิ่มให้กับตัวสินค้าซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดลงไปด้วย คือ ต้องติดราคาบอกไว้บนตัว สินค้าทุกชิ้นให้ ชัดเจนพอที่ลูกค้าและพนักงานเก็บเงินจะอ่านไต้ หรือ สินค้าบางประเภทที่ขายกันเป็น จำนวนมาก อาจจะติดราคาในรูปของแผ่นป้ายหรือโปสเตอร์ จะเป็นการช่วยประหยัดแรงงานและเวลาไต้ หากเป็นสินค้าชนิดเดียวกันแด,ต่างยี่ห้อกัน อาจจะติดราคาไว้ที่ชั้นวางสินค้าจะช่วยให้ลูกค้าเห็นและ เปรียบเทียบราคากันไต้ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาและแรงงานในการติดราคากันใหม่ เมื่อสินค้ามีราคา เปลี่ยนแปลงใหม่ แด,ก็เป็นการให้ประโยชน์และรายละเอียดเพิ่มเติมรวมถึงความสะดวกกับลูกค้า ทั้งยังเป็นการสะดวกในการเรียกเก็บเงินค่าสินค้าอีกด้วย


การจัดวางสินค้า มีความสำคัญต่อการจูงใจลูกค้าให้เลือกซื้อสินค้า เพื่อให้สะดวกและเกิดความ พึงพอใจควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1. ความพึงพอใจของลูกค้า
2. จัดสินค้าไว้ในบริเวณที่เราจะขาย
3. จัดสินค้าไว้ในระดับสายตาให้มากที่สุด
4. จัดสินค้าด้านหน้าบนชั้นให้เต็มอยู่เสมอ
5. ชั้นปรับระดับได้ตามขนาดของสินค้าจะเป็นการดี
6. การใช้กล่องหนุนสินค้าให้ดูงดงามแม้จะมีสินค้าไม,มากนัก
7. ความเป็นระเบียบเรียบร้อย สินค้าบางชนิด มีหลายแบบ หลายขนาด ควรจัดให้เป็นระเบียบ สะดวกในการเปรียบเทียบของลูกค้า ดังนั้น สินค้าที่เหมือน ๆ คันควรเอาไว้ด้วยคัน และควรจัดตาม แนวนอนอยู่ในระดับเดียวคันหรือจะจัดในแนวดิ่งด้วยก็ได้
8. สินค้ามาก่อนต้องขายก่อน เราต้องขายสินค้าเก่าก่อนสินค้าใหม่เสมอ พยายามวางสินค้ามาก่อน ไว้แถวหน้าเสมอ ควรทำสินค้าที่มาก่อนให้ลูสดใสสะอาดเหมือนสินค้าใหม่
9. ปองคันหลีกเลี่ยงการรั่วไหลของสินค้า โดยการจัดวางผังทางเดินภายในร้านให้ลูกค้าเดินไปมา ได้สะดวก คือ หยิบก็ง่าย หายก็รู้ สินค้าบุบ ชำรุด ใกล้หมดอายุควรจัดเป็นสินค้าลดราคาพิเศษ ล้างสต็อก ด้วยการจัดแยกขายไว้ต่างหาก
การจัดการและดูแลคลังสินค้าตามหลักสุขาภิบาล
การจัดการคลังสินค้า เป็นการจัดการในการรับ การจัดเก็บ หมายถึง การจัดส่งสินค้าให้ผู้รับ เพื่อกิจกรรมการขาย เปาหมายหลักในการบริหาร ดำเนินธุรกิจ ในส่วนที่เกี่ยวช้องคับคลังสินค้า ก็เพื่อให้เกิดการดำเนินการเป็นระบบให้คุ้มคับการลงทุน การควบคุมคุณภาพของการเก็บ การหยิบสินค้า การป้องคัน ลดการสูญเสียจากการดำเนินงานเพื่อให้ด้นทุนการดำเนินงานตํ่าที่สุด และการใช้ประโยชน์ เต็มที่จากพื้นที่
คุณลักษณะเพื่อความเป็นเลิศในงานขาย
การบริการที่ดีจะเกิดขึ้นจากตัวบุคคล โดยอาศัยทักษะ ประสบการณ์ เทคนิคต่าง ๆ ที่จะทำให้ ผู้รับบริการเกิดความพึงพอใจ และอยากกลับเช้ามาใช้บริการอีก มีดังต่อไปนี้
ต้องมีจิตใจรักในงานด้านบริการ (Service Mind) ผู้ให้บริการต้องมีความสมัครใจทุ่มเททั้ง แรงกายและแรงใจ มีความเสียสละ ผู้ที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ต้องมีใจรักและชอบในงานบริการ
ต้องมีความรู้ในงานที่,ให้บริการ (Knowledge) ผู้ให้บริการต้องมีความเในงานที่ตนรับผิดชอบ ที่สามารถตอบข้อซักถามจากผู้รับบริการได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ในเรื่องของสินค้าที่นำเสนอ เพื่อมิให้เกิดความผิดพลาด เสียหายและต้องขวนขวายหาความเจาก เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่าง สมํ่าเสมอ
มีความช่างสังเกต (Observe) ผู้ทำงานบริการจะต้องมีลักษณะเฉพาะตัวเป็นคนมีความช่าง สังเกต เพราะหากมีการรับเว่าบริการอย่างไรจึงจะเป็นที่พอใจของผู้รับบริการก็จะพยายามนำมา
คิดสร้างสรรค์ ให้เกิดบริการที่ดียิ่งขึ้น เกิดความพอใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือ ผู้รับบริการไต้ มากยิ่งขึ้น
ต้องมีความกระตือรือร้น (Enthusiasm) พฤติกรรมความกระตือรือร้น จะแสดงถึงความมีจิตใจ ในการต้อนรับ ให้ช่วยเหลือแสดงความห่วงใย จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี ในการช่วยเหลือผู้รับบริการ
ต้องมีกิริยาวาจาสุภาพ (Manner) กิริยาวาจาเป็นสิ่งที่แสดงออกจากความคิด ความรู้สึกและ ส่งผลให้เกิดบุคลิกภาพที่ดี ตังนั้น เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้รับบริการมีความสบายใจที่จะติดต่อขอรับบริการ
ต้องมีความกิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Creative) ผู้ให้บริการควรมีความคิดใหม่ ๆ ไม,ควรยึดติดกับ ประสบการณ์หรือบริการที่ทำอยู่ เคยปฏิบัติมาอย่างไรก็ทำไปอย่างนั้นไม,มีการปรับเปลี่ยนวิธีการ ให้บริการ จึงควรมีความคิดใหม่ ๆ ในการปฏิรูปงานบริการให้ดีขึ้น
ต้องสามารถควบคุมอารมณ์ไต้ (Emotional control) งานบริการเป็นงานที่ให้ความช่วยเหลือ จากผู้อื่น ต้องพบปะผู้คนมากมายหลายชนชั้น มีการศึกษาที่ต่างกัน ตังนั้น กิริยามารยาทจากผู้รับบริการ จะแตกต่างกัน เมื่อผู้รับบริการไม,ไต้ตังใจ อาจจะถูกตำหนิ พูดจาก้าวร้าว กิริยามารยาทไม,ดี ซึ่งผู้ให้บริการ ต้องสามารถควบคุมสติอารมณ์ไต้เป็นอย่างดี
ต้องมีสติในการแค้ปีญหาที่เกิดขึ้น (Calmness) ผู้รับบริการส่วนใหญ่จะติดต่อขอความ ช่วยเหลือตามปกติ แต่บางกรณีลูกค้าที่มีปีญหาเร่งด่วน ผู้ให้บริการจะต้องสามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุและ คิดหาวิธีในการแก้ไขปีญหาอย่างมีสติ อาจจะเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดจากหลายทางเลือกในการให้บริการ แก,ลูกค้า
มีทัศนคติต่องานบริการดี (Attitude) การบริการเป็นการช่วยเหลือ ผู้ทำงานบริการเป็นผู้ให้ จึงต้องมีความคิดความรู้สึกต่องานบริการในทางที่ชอบ และเต็มใจที่จะให้บริการ ถ้าผู้ใดมีความคิด ความรู้สึกไม,ชอบงานบริการ แม้จะพอใจในการรับบริการจากผู้อื่น ก็ไม,อาจจะทำงานบริการให้เป็นผลดี ไต้ ถ้าบุคคลใดมีทัศนคติต่องานบริการดี ก็จะให้ความสำคัญต่องานบริการ และปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เป็นผลให้งานบริการมีคุณค่าและนำไปสู่ความเป็นเลิศ
มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าหรือผู้รับบริการ (Responsibility) ในต้านงานทางการตลาด และ การขาย และงานบริการ การปลูกฝ่งทัศนคติให้เห็นความสำคัญของลูกค้าหรือผู้รับบริการด้วยการยกย่อง ว่า “ลูกค้าคือบุคคลที่สำคัญที่สุด” และ “ลูกค้าเป็นฝ่ายถูกเสมอ” ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ให้บริการมีความ รับผิดชอบต่อลูกค้าอย่างดีที่สุด
เรื่องที่ 8 พฤติกรรมผู้บริโภคกับช่องทางการจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป
พฤติกรรมของผู้บริโภค (Consumer behavior) หมายถึง การแสดงออกรวมทั้งกระบวนการในการ ตัดสินใจของแต่ละบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้สินค้าและบริการ ประโยชน์ของการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค
1. ช่วยให้นักการตลาดเข้าใจถึง!]จจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค
2. ช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถหาหนทางแก้ไขพฤติกรรมในการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคใน สังคมได้ถูกต้องและสอดคล้องกับความสามารถในการตอบสนองของธุรกิจมากยิ่งขึ้น
3. ช่วยให้การพัฒนาตลาดและการพัฒนาผลิตกัณฑ์สามารถทำได้ดีขึ้น
4. เพื่อประโยชน์ในการแบ่งส่วนตลาด เพื่อการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ให้ตรงกับ ชนิดของสินค้ากี่ต้องการ
5. ช่วยในการปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจต่าง ๆ เพื่อความไต้เปรียบคู,แข่งขัน การประเมินความพึงพอใจของผู้บริโภค
ความพึงพอใจ หมายถึง ความเสึกภายในจิตใจของมนุษย์ซึ่งจะไม,เหมือนกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับแด,ละ บุคคลว่าจะคาดหมายกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดล้าคาดหวังหรือมีความตั้งใจมากเมื่อไต้รับการตอบสนองด้วยดีจะมี ความพึงพอใจมาก แด,ในทางตรงข้ามอาจผิดหวังหรือไม,พึงพอใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อไม,ไต้รับการตอบสนอง ตามกี่คาดหวังไว้หรือไต้รับน้อยกว่ากี่คาดหวังไว้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งกี่ตั้งใจไว้ว่าจะมีมากหรือมีน้อย
ฟ้จจัยสำคัญเพื่อประเมินคุณภาพของการบริการ
1. ความสะดวก หมายถึง ความสะดวกในการเข้าพบหรือติดต่อกับผู้ให้บริการ ซึ่งครอบคลุม ทั้งเวลากี่เปิดดำเนินการ สถานกี่ตั้งและวิธีการที่จะสามารถอำนวยความสะดวกให้แก,ผู้บริโภคในการ เข้าพบหรือติดต่อกับผู้ให้บริการ เช่น สถานกี่ให้บริการตั้งอยู่ในกี่กี่สะดวกแก,การไปติดต่อ เป็นต้น
2. การติดต่อสื่อสาร หมายถึง การสื่อสารและให้ข้อมูลแก,ลูกค้าด้วยภาษากี่ง่ายต่อการเข้าใจและ การรับพึงความคิดเห็น ตลอดจนข้อเสนอแนะ หรือคำติชมของลูกค้าในเรื่องต่าง ๆ กี่เกี่ยวข้องกับการ ให้บริการขององค์การ
3. ความสามารถ หมายถึง การที่ผู้ให้บริการมีความรู้ความสามารถและทักษะที่จะปฏิบัติงาน บริการไต้เป็นอย่างดี เช่น ความรู้และทักษะให้ข้อมูลผลิตกัณฑ์ เป็นต้น
4. ความสุภาพ หมายถึง การที่ผู้ให้บริการมีความสุภาพเรียบร้อย มีความนับถือในตัวลูกค้า รอบคอบ และเป็นมิตรต่อผู้บริโภค เช่น การให้บริการด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและการสื่อสารด้วย ความสุภาพ เป็นต้น
5. ความน่าเชื่อถือ หมายถึง ความเชื่อถือไต้และความซื่อสัตย์ของผู้ให้บริการ ชื่อเสียงและ ภาพลักษณ์กี่ดี
6. ความคงเส้นคงวา หมายถึง ความสามารถในการปฏิบัติงานกี่ไต้สัญญาไว้อย่างแน่นอนและ แม่นยำ เช่น การให้บริการตามกี่ไต้แจ้งไว้กับแก,ลูกค้า เป็นต้น
7. การตอบสนองอย่างรวดเร็ว หมายถึง ความเต็มใจของผู้ให้บริการที่จะให้บริการอย่างรวดเร็ว เช่น การให้บริการแก,ผู้รับบริการ ณ เคาน์เตอร์จ่ายเงิน แบบทันทีทันใด เป็นต้น
การสำรวจความพึงพอใจ
การสำรวจความพึงพอใจลูกค้าเป็นเครื่องมือที่สำคัญและมีบทบาทในการพัฒนาและปรับปรุงการ ทำงานในองค์การอย่างมาก ข้อมูลที่ไต้จากการสำรวจเป็นข้อมูลป้อนกลับไปสู่หน่วยงานที่แสดงให้เห็น ถึงพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า เช่น พฤติกรรมการเลือก1ซื้อ/ใช้บริการ และเป็นตัวชี้วัดผลการ ปฏิบัติงานขององค์การที่แม่นยำ เทคนิคการวัดความพึงพอใจ อาจเริ่มจาก การสังเกต การสัมภาษณ์ แบบสอบถาม จนถึงกระบวนการทำวิจัย มหาตมะ คานธีกล่าวไว้ว่า
“ลูกค้า คือ แขกคนสำคัญที่สุด ที่ไต้มาเยือนเรา ณ สถานที่แห่งนี้ เขามิไต้มาเพื่อพึ่งพิงเรา เรา ต่างหาก ที่ต้องพึ่งพาอาศัยเขา เขามิใช่บุคคลที่มาขัดจังหวะการปฏิบัติงานของพวกเรา หากแด,ว่า การรับใช้ เขาคือ วัตถุประสงค์แห่งงานของพวกเรา เขามิใช่บุคคลแปลกหน้าแด,เขา คือ ส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งนี้ บริการจากพวกเรา มิใช่การสงเคราะห์เขา เขาต่างหากที่กำลังสงเคราะห์พวกเรา ด้วยการยอมให้พวกเรามี โอกาสไต้รับใช้เขา”
การส่งเสริมการขาย
การส่งเสริมการขายเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ โดยการจัดกิจกรรม การตลาดและส่งเสริมการขายต่าง ๆ เช่น การเสนอของแถม การแสดงสินค้าและการจัดวางสินค้า การลด ราคา การตลาดทางไกล การตลาดทางไปรษณีย์ และวิธีการอื่น ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย
วิธีการส่งเสริมการขาย
การส่งเสริมการขายต้านลดราคาส่วนใหญ่เป็นการลดราคาสินค้า โดยอาจจะลดจากราคาขาย ปกติ เช่น การจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เป็นช่วงเวลา การลดราคา 25% ทุกวันพุธ เป็นต้น หรือการเพิ่มปริมาณ สินค้าโดยขายราคาเท่าเติม เช่น แลกตาซอย เอ็กตร้า 300 เพิ่มปริมาณแด,ไม,เพิ่มราคา เป็นต้น ยอดขายที่ เพิ่มขึ้นจากการลดราคานี้จะมีต้นทุนจากกำไรที่ลดลง การตัดสินใจใช้กลยุทธ์นี้จึงควรต้องพิจารณาอย่าง รอบคอบ และควรคำนึงถึงผลกระทบต่อชื่อเสียงของตราสินค้าด้วย
การส่งเสริมการขายโดยการใช้คูปอง
คูปอง เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการลดราคา วัตถุประสงค์หลักของการใช้การส่งเสริมการขายโดย ใช้คูปอง คือ การกระตุ้นให้ลูกค้าใช้คูปองให้มากที่สุด โดยมีเทคนิคการแจกคูปองหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น
- การติดคูปองไว้บนบรรจุภัณฑ์เพื่อกระตุ้นการซื้อซื้า
- การแจกคูปองในหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารเพื่อให้ผู้บริโภคไปใช้ซื้อสินค้า
การส่งเสริมการขายโดยการให้ของแถมเป็นวิธีที่มีใช้คันมาก โดยลูกค้าจะไต้รับของแถม เมื่อซื้อครบตามที่กำหนด เช่น ซื้อสินค้าครบสิบชิ้น ก็จะไต้รับของแถมหนึ่งชิ้น เป็นต้น
การส่งเสริมการขายโดยการแข่งขันและให้รางวัลเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีใช้กันมากในบีจจุบัน โดยเฉพาะตามงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ก็จะมีสาวสวย (Pretty) แต่งตัวน่ารัก มากล่าวแนะนำถึงสรรพคุณที่ดี ของสินค้าและจัดเกมส์ตอบคำถามง่าย ๆ พร้อมของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจของลูกค้า ที่เดินผ่านไปมาและมีการแจกของชำร่วยเล็กให้กับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมและตอบคำถามไค้ถูกต้อง เป็นต้น
การส่งเสริมการขายโดยการชิงโชค ซึ่งวิธีนี้ก็อาจจะมีหลายวิธี แต่ที่นิยมกันก็คือ การแนบใบ ลุ้นรางวัลมาพร้อมกับสินค้า หรือให้ตัดชิ้นส่วน หรือ ป้ายฉลาก สติ๊กเกอร์ อย่างใดอย่างหนึ่ง ส่งไปร่วม ชิงโชค ซึ่งวิธีการนี้ก็จะต้องระมัดระวังเรื่องความสะดวกในการที่จะส่งชิ้นส่วน หรือชิ้นส่วนจะต้องไม,ถูก แอบแกะอ่านดูก่อนที่ผู้ซื้อจะเป็นผู้แกะคนแรก
การส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าประจำ เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าประจำมาซื้อสินค้าหรือใช้ บริการบ่อย ๆ เช่น สายการบิน มีการสะสมไมล์เพื่อแลกเป็นตั๋วเครื่องบินฟรี เมื่อสะสมไมล์ไต้ ตามที่กำหนด หรือร้านอาหารญี่ปุนฟูจิ หรือเซน มีการประทับตราเมื่อรับประทานอาหารครบทุก 300 บาท และนำมาแลกเป็นบัตรส่วนลด หรืออาหาร 1 จานเมื่อครบตามที่กำหนด เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ามาซื้อ สินค้าหรือใช้บริการบ่อย ๆ หรือป็มนํ้ามันมีการทำบัตรสมาชิกแล้วให้ส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก เป็นต้น
การส่งเสริมการขาย ณ จุดวางสินค้ามีผลการวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคในร้านค้าปลีกออกมาว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้นถ้าลูกค้าสามารถเห็นสินค้า ณ จุดวางสินค้า การจัดวางสินค้าที่น่าสนใจ ให้ข้อมูล เหมาะสม และวางในตำแหน่งที่สังเกตไต้ง่าย จะช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากขึ้น ในปจจุบันจะเห็นไต้ว่า สินค้าอุปโภคบริโภคที่วางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ต มีการจัดเรียงเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ ถ้าต้องการ ให้สินค้าเป็นที่สังเกตไต้ง่าย พื้นที่วางสินค้าต้องอยู่ในระดับสายตา และตั้งวางสินค้าเป็นแถวอย่างชัดเจน และเป็นระเบียบ
การส่งเสริมการขายโดยการแจกสินค้าตัวอย่างให้ทดลองใช้วิธีนี้ให้ลูกค้าไต้ทดลองใช้สินค้า ดูก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งวิธีนี้ก็อาจสามารถดึงลูกค้าที่ใช้สินค้าของคู,แข่งอยู่ให้หันมาทดลอง ของใหม่โดยที่ไม,ต้องเสียเงินซื้อ เพราะบางครั้งลูกค้ามีความคิดว่าของที่ใช้อยู่เติมก็ดีที่สุดอยู่แล้ว ทำไม ต้องไปเสียเงินซื้อสินค้าอื่นมาทดลองใช้
อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมการขาย ควรยึดหลักที่ว่า ทำสิ่งที่ง่าย ๆ ที่ไม,ให้ลูกค้าเสืกยุ่งยาก ในการที่จะเช้าร่วมกิจกรรมที่เราวางไว้
เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางการจำหน่าย
E-Commerce การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การตำเนินธุรกิจการค้าหรือการซื้อขายบนระบบ เครือข่ายอินเทอร์เนต โดยผู้ซื้อ (Customer) สามารถตำเนินการ เลือกสินค้า กำนวนเงิน ตัดสินใจซื้อ สินค้า โดยใช้วงเงินในบัตรเครดิต ไต้โดยอัตโนมัติ ผู้ขาย (Business) สามารถนำเสนอสินค้า ตรวจสอบ วงเงินบัตรเครดิตของลูกค้า รับเงินชำระค่าสินค้า ตัดสินค้าจากคลังสินค้า และประสานงานไปยังผู้จัดส่ง สินค้า โดยอัตโนมัติ กระบวนการตังกล่าวจะตำเนินการเสร็จสิ้นบนระบบเครือข่าย Internet
1. เปิดดำเนินการค้า 24 ชั่วโมง
2. ดำเนินการค้าอย่างไร้พรมแดนทั่วโลก
3. ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
4. ตัดปีญหาด้านการเดินทาง
5. ง่ายต่อการประชาสัมพันธ์ โดยสามารถประชาสัมพันธ์ได้ทั่วโลก
ข้อเสีย
1. ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
2. ประเทศของผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับอย่างมีประสิทธิภาพ
3. การดำเนินการด้านภาษีต้องชัดเจน
4. ผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีความเพื้นฐานในเทคโนโลยีอินเทอร์เนต
กระบวนการพื้นฐาน เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. ลูกค้าเลือกรายการสินค้าของผู้จำหน่าย (Catalog)
2. ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อให้ผู้จำหน่าย (Order)
3. ลูกค้าชำระเงินให้ผู้จำหน่าย (Payment)
4. ลูกค้ารอรับสินค้าจากผู้จำหน่าย (Shipping)
เว็บไซท์ธุรกิจ E-Commerce การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่างเวบไซทในประเทศ เช่น www.shop4thai.com.www.chulabook.com.www.tohome.com เปนต้น ตัวอย่างเวบไซทต่างประเทศ เช่น www.amazon.com , www.alibaba.com.www.ecplaza.net เปนต้น
เรื่องที่ 9 การบริหารจัดการธุรกิจ ทุนและแหล่งเงินทุน
เงินทุน หมายถึง เงินตราที่องค์การธุรกิจจัดหามา เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินกิจการ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อให้ไต้ผลตอบแทนจาการลงทุนอย่างคุ้มค่า เงินทุนมีความสำคัญต่อธุรกิจ เพราะเป็นปจจัยในการ ดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่เริ่มตั้งกิจการ และระหว่างดำเนินกิจการ เงินทุนทำให้การผลิต การซื้อขายเป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพและทำให้ธุรกิจขยายตัวไต้อย่างรวดเร็ว
ประเภทของเงินทุน เงินทุนที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
2.1 เงินทุนคงที่
เงินทุนคงที่ หมายถึง เงินทุนที่องค์การธุรกิจจัดหาเพื่อนำมาใช้ในการจัดหาทรัพย์สินถาวร ทรัพย์สินถาวร หมายถึง สินทรัพย์ที่อายุการใช้งานนานเกินกว่า 1 ปี ดังนั้น เงินทุนคงที่ องค์การธุรกิจจึง นำมาใช้ในการลงทุนซื้อที่ดิน สร้างอาคาร ซื้อเครื่องจักร ซื้อเครื่องใช้สำนักงาน เป็นด้น
2.2 เงินทุนหมุนเวียน
เงินทุนหมุนเวียน หมายถึง เงินทุนที่องค์การธุรกิจจัดหา เพื่อนำมาใช้ในการจัดหาทรัพย์สิน หมุนเวียนหรือใช้ในการดำเนินกิจการ ทรัพย์สินหมุนเวียน หมายถึง สินทรัพย์ที่อายุการใช้งานไม,เกิน หนึ่งปี ดังนั้น เงินทุนหมุนเวียน องค์การธุรกิจจึงนำมาใช้ในการซื้อวัตถุดิบ ซื้อสินค้า จ่ายค่าแรงงาน จ่ายค่าเบี้ยประกันภัย จ่ายค่าขนส่ง จ่ายค่าโฆษณา จ่ายค่าสาธารณูปโภค เป็นด้น
แหล่งเงินทุน แหล่งที่มาของเงินทุน
1. แหล่งเงินทุนจากภายในธุรกิจเอง ได้แก่ เงินทุนของเจ้าของกิจการ กำไรสะสม และค่าเสื่อม
ราคา
2. แหล่งเงินทุนจากภายนอกธุรกิจ ได้แก่ เงินทุนที่มาจากการระดมทุน เงินทุนจากเจ้าหนี้ของ กิจการและเงินทุนที่ได้รับจากการสนับสนุน
เรื่องที่ 10 การกำหนดราคาขาย
ราคา (Price) หมายถึง “มูลค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่แสดงค่าออกมาในรูปหน่วยเงิน หรือ หน่วยการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ”
วิธีการขั้นพื้นฐานในการตั้งราคา นิยมกันอยู่ทั่วไป คือ วิธีการตั้งราคาโดยยึดด้นทุนเป็นเกณฑ์ ราคาขายต่อหน่วย = ด้นทุนทั้งหมด + กำไรที่ด้องการ
การบัญชี (Accounting) หมายถึง การจดบันทึกรายการค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการรับ-จ่ายเงิน การจัด หมวดหมู,สรุปผลและวิเคราะห์ ตีความ อย่างมีหลักเกณฑ์
ประโยชน์และวัตถุประสงค์ของการบัญชี
1. ช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถควบคุมรักษาสินทรัพย์ของกิจการได้
2. ช่วยให้ทราบผลการดำเนินงานของกิจการ ในรอบระยะเวลาใดเวลาหนึ่งว่า ผลการ ดำเนินงานที่ผ่านมา กิจการมีกำไรหรือขาดทุนเป็นจำนวนเท่าใด
3. ช่วยให้ทราบฐานะการเงินของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่งว่า กิจการในสินทรัพย์ หนี้สิน และ


4. การทำบัญชีเป็นการรวบรวมสถิติอย่างหนึ่งที่ช่วยในการบริหารงาน และให้ข้อมูลอันเป็น ประโยชน์ในการวางแผนการดำเนินงานและควบคุมกิจการให้ประสบผลสำเร็จตามความมุ่งหมาย เพื่อบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นตามลำดับก่อนหลัง และจำแนกตามประเภทของรายการค้าไว เพื่อให้ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการทำบัญชีของกิจการต่าง ๆ การบริหารคลังสินค้า
การวางแผนการบริหารคลังสินค้าเพื่อสำรองสินค้าคงคลังในปริมาณที่เหมาะสม เป็นพีนเพีอง หลักให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าไต้
การบริหารคลังสินค้าจะจัดการตั้งแต่การรับเข้าจนถึงการจ่ายออก จะเป็นการเมื่อสินค้าเข้ามา ควรจะนำสินค้าไปเก็บไว้ที่ไหน ให้ถูกสุขลักษณะ เนื่องจากมีการจัดเก็บสินค้าหลากหลายประเภท จึงจำเป็นต้องแบ่งโซนจัดวางสินค้า
ต้นทุนการบริหารคลังสินค้าและสินค้าคงคลัง ประกอบไปด้วย 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
1. ค้นทุนการบริหารคลังสินค้า เกิดจากการดำเนินกิจกรรมการให้บริการภายในคลังสินค้า การจัดเก็บสินค้า
2. ค้นทุนในการถือครองสินค้า คือต้นทุนในการถือครองสินค้า หรือค่าเสียโอกาสที่เงินทุนไปจม อยู่ในสินค้า
เรื่องที่ 11 คุณธรรมในการประกอบอาชีพ
คุณธรรม คือ คุณงามความดีที่เรา แสดงออก เช่น
1. ความขยันหมั่นเพียร มีความขยัน ในการปฏิบัติงาน
2. อดทน การทำงานต้องมีความ เข้มแข็งอดทนต่อสภาพที่เกิดขึ้นทุกขณะ งานจะหนักจะเบาเรา
ต้องทำ
3. ความซื่อสัตย์ มีความซื่อสัตย์ ต่อตนเอง ต่อหมู,คณะ เพื่อนร่วมงาน
4. สุจริตเป็นคนตรงไม,เอารัดเอาเปรียบบุคคลอื่นไม,คดโกงถือคติ“ซื่อกินไม,หมดคดกิน
ไม,นาน”
5. ความรับผิดชอบ มีความรับผิดชอบงานที่มอบหมายให้ทำจนสำเร็จ ถูกต้อง นายจ้างพอใจ
6. ความเข้าใจตนเองและสังคม คือ เป็นคนไว้ใจซึ่งกันและกัน
บัญหาและอุปสรรค
1. ทักษะความรู ความชำนาญในธุรกิจถือเป็นปีจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความสามารถในการทำ ธุรกิจของผู้ประกอบการ ซึ่งจะต้องค้นหาตัวเองว่ามี ทักษะความ! ความสามารถที่โดดเด่นนั้นเพียงพอ ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจนั้นอยู่รอดไต้หรือไม, การที่เรามีเงินทุนนั้นก็ไม,ไต้หมายความว่าจะประสบ ความสำเร็จ แด,ต้องวัดคันที่แมืออีกด้วย แด,หากว่าค้นหาแล้ว ยังไม,เจออีก มีข้อแนะนำอยู่ 2 อย่างก็คือ เลิก ทำธุรกิจหรือหาคนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกัน เท่าที่ผ่านมามีธุรกิจจำนวนมากที่มี หุ้นส่วนจำนวนเยอะมาก และแต่ละคนก็มีความสามารถแตกต่างกันไป เช่น ความสามารถทางด้านคิด แผนการตลาด การโปรโมทประชาสัมพันธ์หรือการจัดการภายในองค์กร เป็นด้น อย่าลืมว่าไม,มีใครเก่ง ที่สุดหรือดีที่สุด แต่ถ้าเราเอาความสามารถของแต่ละคนมาผนึกรวมกัน ก็จะทำให้ความเก่งกาจในธุรกิจ นั้นก้าวไปถึงความเป็นที่สุดนั้นไต้
2. ข้อมูลที่จำเป็นต่อการเติบโต เราจะเห็นได้ว่า ทุก ๆ ธุรกิจในปีจจุบันนี้ต้องอาศัยข้อมูลต่าง ๆ เพื่อหล่อเลี้ยงให้ธุรกิจก้าวไปอย่างมั่นคง ซึ่งมีความสำคัญไม,แพ้ไปกว่าเงินทุนที่เรากำลังหากันอยู่ อาทิเช่น ข้อมูลเรื่องความต้องการของผู้บริโภค อย่าลืมว่าทุกวันนี้มีการแข่งขันสูง ลูกค้าเป็นป็จจัยสำคัญที่ช่วยให้ ธุรกิจเรารอด ดังนั้น เราจำเป็นต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง หากไม,ทำเช่นนั้นแก้ว ธุรกิจของคุณอาจจะมีผลกระทบก็เป็นได้ นอกจากนี้แก้ว วงจรของสินค้าต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุค ตามสมัยด้วย นั่นหมายความว่าสินค้าทุกชนิดจะมีวงจรชีวิตที่ถูกกำหนดโดยผู้บริโภค และแน่นอนว่า ผู้ประกอบการจะต้องมีข้อมูลเหล่านี้เพื่อใช้ปรับแผนเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ
3. การวางแผนการตลาด หัวข้อนี้สำคัญมากต่อผู้ประกอบการซึ่งจะต้องค้นหาว่าแผนการตลาด ของเรานี้นมีจุดอ่อนและจุดแข็งตรงไหนบ้าง วิธีนี้สามารถทำได้โดยการศึกษาแผนการทำงานของคู,แข่ง หากเราทำแผนมาเปรียบเทียบกับคู,แข่งแก้วพบว่ามีจุดอ่อนอยู่ ขอแนะนำให้ทบทวนและเปลี่ยนการตลาด ใหม่หมด อย่าลืมด้วยว่าทุกวันนี้การทำงานต้องศึกษาจากลูกค้าและคู,แข่ง บางครั้งแนวคิดของเราอาจ ขัดแย้งกับความเป็นจริงอยู่บ้าง แต่ยังไงก็ต้องปรับปรุงเพื่อให้ธุรกิจนั้นไปตลอดรอดผ่ง
4. มาตรฐานในการผลิต เท่าที่เราทราบกันอยู่ว่า คุณภาพที่ดีของสินค้า คือ ป็จจัยสำคัญต่อความ อยู่รอด ควรหมั่นทบทวนเรื่องมาตรฐานของสินค้ากันอีกครั้ง เพื่อให้เว่าคุณภาพของสินค้าเราตรงกับ ความต้องการของผู้บริโภครึเปล่า ดังนั้น การสร้างมาตรฐานการผลิต คือ สิ่งที่เราต้องตระหนักและพัฒนา กันอย่างเรื่อย ๆ

กิจกรรมท้ายบทหน่วยที่ 5

กิจกรรม
ตอบคำถามต่อไปนี้แล้วบันทึกในแฟ้มสะสมงานพร้อมอธิบายในชั้นเรียน
1.     โรคธาลัสซีเมียเกิดจากสาเหตุอะไรและมีกี่ประเภทอะไรบ้าง
2.      โรคภูมิแพ้เกิดจากสาเหตุอะไรและมีอวัยวะใดบ้างที่เกิดโรคภูมิแพ้ได้
3.      สำรวจเพื่อนในกลุ่มว่าใครเป็นโรคภูมิแพ้บ้าง เพื่อจะได้ออกมาอภิปรายให้ทราบถึงอาการที่ เป็นและสันนิษฐานหาสาเหตุ และค้นหาวิธีการป้องกันร่วมกัน

กิจกรรมท้ายบทหน่วยที่ 4

กิจกรรม

1.      ฝึกการจับชีพจรที่คอและข้อมือ
2.      ให้ช่วยกันวิเคราะห์เพื่อนในกลุ่มว่า บุคคลใดมีสุขภาพแข็งแรงหรืออ่อนแอ แล้วแบ่งกลุ่ม ตามความแข็งแรง
3.      จัดโปรแกรมออกกำลังกายสำหรับเพื่อนในแต่ละกลุ่มให้มีความเหมาะสมกับสภาพร่างกาย และความพร้อมของแต่ละกลุ่มที่แบ่งไว้ในข้อ 2
4.      สาธิตการออกกำลังกายของทุกกลุ่ม พร้อมอธิบายถึงประโยชน์และความเหมาะสมกับวิธีการ ที่สาธิตว่า เหมาะสมอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร

กิจกรรมท้ายบทหน่วยที่ 3

กิจกรรม


1. แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5 คน ทำ my mapping ตามความเข้าใจ พร้อมทั้งรายงานให้เพื่อนแบ่ง/ดูตาม หัวข้อต่อไปนี้

กลุ่มที่ 1 สารอาหารทำหน้าที่อะไรบ้าง กลุ่มที่ 2โรคจากโปรตีนและแคลอรีมีอาการอย่างไร กลุ่มที่ 3 โรคขาดธาตุไอโอดีนมีอาการอย่างไร กลุ่มที่ 4 โรคขาดวิตามินซี มีผลอย่างไรกับร่างกาย

2. ให้นักศึกษาเขียนเมนูอาหารสำหรับบุคคล ดังนี้แล้วรายงานหน้าชั้นเรียน

เมนูอาหารสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนทั้ง 3 มื้อ เป็นเวลา 3 วัน
เมนูอาหารสำหรับผู้ชรา ทั้ง 3 มื้อ เป็นเวลา 3 วัน
เขียนเมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้ง 3 มื้อ เป็นเวลา 3 วัน

กิจกรรมท้ายบทหน่วยที่ 1

กิจกรรม




1.      จงสรุปความสำคัญและอธิบายการทำงานของระบบอวัยวะในร่างกาย 4 ระบบ พร้อม 
       แผนภาพประกอบ

2.      การดูแลรักษาระบบย่อยอาหารควรทำอย่างไร เพราะอะไร จงอธิบายพร้อมให้เหตุผล

กิจกรรมท้ายบทหน่วยที่ 2

กิจกรรม


                              อธิบายคำถามต่อไปนี้ในชั้นเรียน

1.       พัฒนาการทางเพศมีกี่ชั้นตอน อะไรบ้าง
2.       อารมณ์ทางเพศอาจแบ่งตามความรุนแรงได้เป็น 3 ระดับ มีอะไรบ้าง
3.       มีวิธีจัดการอารมณ์ทางเพศอย่างไรบ้าง
4.       การจะมีความผิดฐานทำอนาจารได้ ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ตามข้อกฎหมายการพรากผู้เยาว์หมายถึงอะไร

6.3 ความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ยา

บีจจุบันแม้ว่าความก้าวหน้าทางแพทย์สมัยใหม่รวมทั้งวิถีชีวิตที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกจะทำให้คนทั่วไปเมื่อเจ็บป่วยหันไปพึ่งการรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งมุ่งเน้นการใช้ยาแผนบีจจุบันใน การรักษาอาการเจ็บป่วยเป็นหลัก โดยให้ความสำคัญ ความเชื่อลือในยาพื้นบ้าน ยาแผนโบราณลดน้อยลง ทำให้ภูมิบัญญาพื้นบ้านรวมถึงตำหรับยาแผนโบราณสูญหายไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังขาดความ ต่อเนื่องในการถ่ายทอดองค์ความเในการดูแลรักษาตนเองเบื้องด้นด้วยวิธีการและพืช ผัก สมุนไพร ที่หา ได้ง่ายในบ้องถิ่น
โดยองค์ความเที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นนั้นได้ผ่านการวิเคราะห์และทดลองแล้วว่าได้ผลและไมเกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างไรก็ตามยังคงมีความเชื่อบางประการเกี่ยวกับการใช้ยาเพื่อเสริมสุขภาพและสมรรถภาพเฉพาะด้านซึ่งยังไม่ได้รับการพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่ามี สรรพคุณตามกำโฆษณา อวดอ้าง หรือบอกต่อ ๆ กัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายหรือผลช้างเคียงหากใช้จำนวนมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ได้แก่ ยาดองเหล้า ยาฟอกเลือด ยาชงสมุนไพร ยาที่ทำจากอวัยวะ ซากพืชซากสัตว์เป็นด้น รวมถึงยาชุดต่าง ๆ ที่มักมีการโฆษณาชวนเชื่ออวดล้าง สรรพคุณเกินจริง ทำให้คนบางกลุ่มหลงเชื่อ ซื้อหามารับประทาน ยาบางชนิดมีราคาแพงเกินปกติโดยล้างว่าทำจากผลิตภัณฑ์ที่หายากสรรพคุณครอบจักรวาล สามารถรักษาได้สารพัดโรค ซึ่งสรรพคุณที่มักกล่าวล้างเกินจริง อาทิเช่น  กินแล้วจะเจริญอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น เช่น ยาดองเหล้า ยาสมุนไพร บางชนิด
             - กินแล้วจะทำให้มีกำลัง สามารถทำงานได้ทนนาน
             -กินแล้วทำให้มีพลังทางเพศเพิ่มขึ้น เช่น ยาดองเหล้า ยาดองอวัยวะซากสัตว์ อุ้งตีนหมี ดีงูเห่า ฯลฯ
           - กินแล้วจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี นอนหลับสบาย ผิวพรรณผ่องใส เช่น ยาฟอกเลือด ยาสตรี ยาขับระดู ฯลฯ
        - กินแล้วทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาว อวัยวะบางส่วนใหญ่ขึ้น เช่น เขากวาง และกวาวเครือแดง เสริม ความหนุ่ม กวาวเครือขาวเสริมทรวงอก และความสาว เป็นด้น
              -กินแล้วจะช่วยชะลอความแก,หรือความเสื่อมของอวัยวะ เช่น รังนกซึ่งทำจากนี้าลายของ นกนางแอ่น หูฉลามหรือครีบของฉลาม หรือโสม ซึ่งส่วนใหญ่มีราคาแพงไม่คุ้มค่ากับประโยชน์ที่ร่างกาย ได้รับจริง ๆ
            -กินแล้วรักษาอาการปวดเมื่อย ไขข้ออักเสบเรือรัง เช่น ยาชุดต่าง ๆ ยาแก้กระษัยไตพิการ ซึ่งมัก ผสมสารหนูที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมาก เพราะผู้ใช้อาจมักติดยาต้องรับประทานเพิ่มขึ้นจึงเกิดการ สะสมพิษ เมื่อเกิดอันตรายมักมีอาการรุนแรงยากแก,การรักษา
ทั้งนี้การใช้ยาดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดจากความเชื่อผิด ๆ หรือเชื่อในคำโฆษณาเกินจริง ที่แฝงมาด้วยภัยเงียบที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหากใช้อย่างต่อเนื่องและใช้ในจำนวนมาก นอกจากนี้ยังทำให้ เสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่,เกิดประโยชน์ต่อร่างกายไม่มีผลในการรักษาอาการต่าง ๆ ตามสรรพคุณที่ กล่าวล้าง ดังนั้น ค่อนจะซื้อหายาหรือผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพมาใช้ ควรศึกษาสรรพคุณ ส่วนประกอบ แหล่งผลิต วันหมดอายุ และความน่าเชื่อลือของผู้ผลิตโดยพิจารณาจากมีเลขทะเบียนถูกต้องหรือไม่ มีดรา อย. หรือมีใบอนุญาตการผลิต ใบประกอบโรคศิลปะแพทย์แผนโบราณ เป็นด้น
ความเชื่อและข้อควรระวังในการใช้ยาชุด ยาดองเหล้า และยาชงสมุนไพร
                                   1. ยาชุด
ยาชุด หมายถึง ยาที่ผู้ขายจัดรวมไว้ให้ดัยบผู้ซื้อ สำหรับให้กินครั้งละ 1 ชุด รวมกันหมด โดยไม่แยกว่าเป็นยาชนิดใด ควรจะกินเวลาไหน โดยทั่วไปมักจะมียา ตั้งแต่ 3 - 5 เม็ด หรืออาจมากกว่าและอาจ จัดรวมไว้ในซองพลาสติกเล็กๆ พิมพ์ฉลากบ่งบอกสรรพคุณไว้เสร็จ
สรรพคุณที่พิมพ์ไว้บนซองยาชุด มักโอ้อวดเกินความจริง เพื่อให้ขายได้มาก ชื่อที่ตั้งไว้จะเป็น ชื่อที่ดึงดูดความสนใจหรือโอ้อวดสรรพคุณ เช่น ยาชุดกระจายเสัน ยาชุดประดงขุนแผน ยาชุดแอ้ ไข้มาลาเรียเป็นด้น
เนื่องจากผู้จัดยาชุดไม่มีความ!เรื่องยาอย่างแท้จริงและมักจะมุ่งผลประโยชน์เป็นสำคัญ ดังนั้น ผู้ใช้ยาชุดจึงมีโอกาสได้รับอันตรายจากยาสูงมาก
อันตรายจากการใช้ยาชุด
                      1.ได้รับตัวยาซํ้าซ้อน ทำให้ได้รับตัวยาเกินขนาด เช่น ในยาชุดแอ้ปวดเมื่อย ในยาชุดหนึ่งๆ อาจมียาแอ้ปวด 2-3 เม็ด ก็ได้ ซึ่งยาแอ้ปวดนี้จะอยู่ในรูปแบบต่างคัน อาจเป็นยาคนละสีหรือขนาดเม็ดยา ไม่เท่าคัน แด,มีตัวยาแอ้ปวดเหมือนคัน การที่ได้รับยาเกินขนาดทำให้ผู้ใช้ยาได้รับพิษจากยาเพิ่มขึ้น
                      2.ได้รับยาเกินความจำเป็น เช่น ในยาชุดแอ้หวัดจะมียาแอ้ปวดลดไข้ ยาปฏิชีวนะยาลดน้ำมูกก ยาทำให้จมูกโล่ง ยาแอ้ไอ แต่จริงๆ แล้ว ยาปฏิชีวนะจะใช้รักษาไม่ได้ในอาการหวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส และอาการหวัดของแด,ละคนไม่เหมือนคัน ถ้าไม่ปวดหัวเป็นไข้ ยาแอ้ปวด ลดไข้ไม่,จำเป็น ไม่มีอาการไอ ไม่ควรใช้ยาแอ้ไอ การรักษาหวัด ควรใช้บรรเทาเฉพาะอาการที่เกิดขึ้นเท่านั้นไมจำเป็นต้องกินยาทุกชนิดที่ อยู่ในยาชุด
                   3.ในยาชุดมักมียาเสื่อมคุณภาพ หรือยาปลอมผสมอยู่ การเก็บรักษายาชุดที่อยู่ในซองพลาสติก จะไม่สามารถคันความชื้น ความร้อน หรือแสงได้ดีเท่าคับที่อยู่ในขวดที่บริษัทเติมผลิตมา ทำให้ยาเสื่อม คุณภาพเร็วนอกจากนั้นผู้จัดยาบางชุดบางรายต้องการกำไรมากจึงเอายาปลอมมาขายด้วย ซึ่งเป็นอันตรายมาก
                    4.ในยาชุดมักใส่ยาอันตรายมาก ๆ ลงไปด้วย เพื่อให้อาการของโรคบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว เป็น ที่พอใจของผู้ชื้อทั้งผู้ขายโดยที่ยาจะไปบรรเทาอาการแต่ไม่ได้แอ้สาเหตุของโรคอย่างแท้จริง อาจทำให้ โรคเป็นมากขึ้น
ยาที่มีอันตรายสูงมากและจัดอยู่ในยาชุดเกือบทุกชนิด คือ ยาสเดียรอยด์ หรือที่เรียกว่ายา ครอบจักรวาลนิยมใส่ในยาชุด เพราะมีฤทธิบรรเทาอาการได้มากมายหลายอย่าง ทำให้อาการของโรค ทุเลาลงเร็วแด,จะไม่,รักษาโรคให้หาย ยาสเดียรอยด์ เช่น เพรดนิโซโลน เดกซาเมธาโซน ทำให้เกิดอันตราย ต่อผู้ใช้สูงมากทำให้เกิดอาการบวมน้ำ ความตันโลหิตสูง หัวใจทำงานหนัก หน้าบวม กลมเหมือน พระจันทร์ ทำให้กระลูกพรุน เปราะหักง่าย กระเพาะอาหารเป็นแผล ความด้านทานโรคลดลงและทำให้ เกิดความผิดปกติด้านประสาทจิตใจ
              5.ผู้ที่ใช้ยาชุดจะได้ยาไมครบขนาดรักษาที่พบบ่อยคือการได้รับยาปฏิชีวนะเพราะการใช้ยา ปฏิชีวนะต้องกินอย่างน้อย 3-5 วัน วันละ 2-4 ครั้ง แล้วแด,ชนิดของยา แด,ผู้ชื้อยาชุดจะกินยาเพียง 3-4 ชุด โดยอาจกินหมดในหนึ่งวัน หรือกินวันละชุด ซึ่งทำให้ได้รับยาไม่ครบขนาด โรคไม่หายและกลับดื้อยา อีกด้วย
การใช้ยาชุดจึงทำให้เสียคุณภาพ การใช้ยาไม่ถูกโรค ทำให้โรคไม่หายเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยเสี่ยง อันตรายจากการใช้ยาโดยไม่จำเป็นสิ้นเปลืองเงินทองในการรักษา
                      2. ยาดองเหล้า และยาเลือด
หลายคนอาจเคยเห็นและเคยรับประทานยาชนิดนี้มาบ้างแล้ว แต่เดิมยากลุ่มนี้จะใช้ในกลุ่มสตรี เพื่อบำรุงเลือด ระดูไม่ปกติ และใช้ในกลุ่มสตรีหลังการคลอดบุตร เพื่อใช้แทนการอยู่ไฟ ส่วนประกอบ ของตัวยาจะมีสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อนหลายชนิด เช่น รากเจตมูลเพลิงแดง กระเทียม พริกไทย เทียนขาว เปลือกอบเชยเทศ ขิง และส่วนผสมอื่นๆ แล้วแต่ชนิดของตำรับ มีขายทั้งที่เป็นชิ้นส่วนสมุนไพรและที่ ผลิตสำเร็จรูปเป็นยาผงและยานี้าขาย ส่วนใหญ่ยาในกลุ่มนี้ยากที่จะระบุถึงสรรพคุณที่แบ้จริง เนื่องจากยัง ขาดข้อมูล ผลของการทดลองทางคลินิกเท่าที่ทราบมีเพียงส่วนประกอบของตัวยาซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาร นี้ามันหอมระเหยและสารเผ็ดร้อนหลายชนิด เมื่อรับประทานเช้าสู่ร่างกายจะเสึกร้อน กระตุ้นการ ไหลเวียนโลหิต สมุนไพรหลายชนิดในตำรับ เช่น เจตมูลเพลิงแดง และกระเทียม มีรายงานว่าสามารถ กระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และมีรายงานการทดลองในหนูเพศเมีย เมื่อได้รับยาจะทำให้ลดการ ตั้งครรภ์ได้ จึงเป็นข้อที่ควรระวังในผู้ที่ตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานยากลุ่มนี้อาจทำให้แท้งได้ และหลาย ตำรับจะมีการดองเหล้าด้วย เมื่อรับประทานทำให้เจริญอาหารและล้วนขึ้น การล้วนมักเกิดจาก แอลกอฮอล์ (เหล้า) ที่ไปลดการสร้างพลังงานที่เกิดจากกรดไขมัน (Fatty acid) จึงมีการสะสมของไขมัน ในร่างกาย และอาจเกิดตับแข็งได้ล้ารับประทานในปริมาณมาก ๆ และติดต่อกันทุกวัน นอกจากนี้การดื่ม เหล้าอาจทำให้เด็กทารกที่อยู่ในครรภ์เกิดการพิการได้ ในเรื่องยาเลือดนี้อาจมีความเชื่อและใช้กันผิดๆ คือ การนำยาเลือดสมุนไพรไปใช้เป็นยาทำแท้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อการตั้งครรภ์เกิน 1 เดือน เนื่องจากไม่ค่อยได้ผล และผลจากการกระตุ้น การบีบตัวและระคายเคืองต่อผนังมดลูกที่เกิดจาก การให้ยาอาจทำให้เกิดการทำลายของเยื่อบุผนังมดลูกบางส่วนเป็นเหตุให้ทารกเกิดมาพิการได้
                        3.ยาชงสมุนไพร
การใช้ยาสมุนไพรเป็นที่นิยมกันในหลายประเทศทั้งทางประเทศยุโรปและเอเชียในประเทศ ไทยบัจจุบันพบมาก มีการเพิ่มจำนวนชนิดของสมุนไพรมาทำเป็นยาชงมากขึ้น เช่น ยาชงดอกคำฝอย หญ้าหนวดแมว หญ้าดอกขาว เป็นด้น
ข้อดีของยาชงคือ มักจะใช้สมุนไพรเดี่ยวๆ เพียงชนิดเดียว เมื่อใช้กินแล้วเกิดอาการกันไม่
พึงประสงค์อย่างไรก็ตามสามารถเว่าเกิดจากสมุนไพรชนิดใดต่างกับตำรายาผสมที่เราไม่สามารถเได้เลย ในต่างประเทศมีรายงานเรื่องความเป็นพิษที่เกิดจากยาชงสมุนไพรที่มีขายในบ้องตลาดกันมาก และเกิดได้ หลายอาการ

สำหรับประเทศไทย รายงานด้านนี้ยังไม่พบมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่มีการเลือกใช้สมุนไพร ที่ค่อนช้างปลอดภัย แต่ที่ควรระวังมีชาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของใบหรือฟกมะขามแขก ใช้ประโยชน์เป็น ยาระบายบ้อง บางยี่ห้อระบุเป็นยาลดความล้วนหรือรับประทานแล้วจะทำให้ทุ่นเพรียวขึ้นอาการที่เกิดคือสาเหตุจากมะขามแขกซึ่งเป็นสารกลุ่มแอนทราควิโนน (Antharquinone) จะไปกระตุ้นการบีบตัวของ ลำไห้ใหญ่ ทำให้เกิดการขับถ่าย การรับประทานบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายได้รับการกระตุ้นจนเคยชิน เมื่อ หยุดรับประทานร่างกายจึงไม่,สามารถขับถ่ายได้เองตามปกติ มีอาการท้องผูกต้องกลับมาใช้ยาระบายอีก เรื่อย ๆ จึงไม่,ควรใช้ยาชนิดนี้ติดต่อกันนานๆ และหากจำเป็นควรเลือกยาที่ไปเพิ่มปริมาณกากและช่วย หล่อลื่นอุจจาระโดยไม่ ดูดซึมเช้าสู่ร่างกาย เช่น สารสกัดจากหัวบุกจะปลอดภัยกว่า แด,การรับประทาน ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้ร่างกายได้รับไขมันน้อยกว่าความต้องการก็ได้ เพราะร่างกายเราต้องการไขมัน ต่อการดำรงชีพด้วย



สารกลุ่ม แอนทราควิโนน