วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

6.3 ความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ยา

บีจจุบันแม้ว่าความก้าวหน้าทางแพทย์สมัยใหม่รวมทั้งวิถีชีวิตที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกจะทำให้คนทั่วไปเมื่อเจ็บป่วยหันไปพึ่งการรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งมุ่งเน้นการใช้ยาแผนบีจจุบันใน การรักษาอาการเจ็บป่วยเป็นหลัก โดยให้ความสำคัญ ความเชื่อลือในยาพื้นบ้าน ยาแผนโบราณลดน้อยลง ทำให้ภูมิบัญญาพื้นบ้านรวมถึงตำหรับยาแผนโบราณสูญหายไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังขาดความ ต่อเนื่องในการถ่ายทอดองค์ความเในการดูแลรักษาตนเองเบื้องด้นด้วยวิธีการและพืช ผัก สมุนไพร ที่หา ได้ง่ายในบ้องถิ่น
โดยองค์ความเที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นนั้นได้ผ่านการวิเคราะห์และทดลองแล้วว่าได้ผลและไมเกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างไรก็ตามยังคงมีความเชื่อบางประการเกี่ยวกับการใช้ยาเพื่อเสริมสุขภาพและสมรรถภาพเฉพาะด้านซึ่งยังไม่ได้รับการพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่ามี สรรพคุณตามกำโฆษณา อวดอ้าง หรือบอกต่อ ๆ กัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายหรือผลช้างเคียงหากใช้จำนวนมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ได้แก่ ยาดองเหล้า ยาฟอกเลือด ยาชงสมุนไพร ยาที่ทำจากอวัยวะ ซากพืชซากสัตว์เป็นด้น รวมถึงยาชุดต่าง ๆ ที่มักมีการโฆษณาชวนเชื่ออวดล้าง สรรพคุณเกินจริง ทำให้คนบางกลุ่มหลงเชื่อ ซื้อหามารับประทาน ยาบางชนิดมีราคาแพงเกินปกติโดยล้างว่าทำจากผลิตภัณฑ์ที่หายากสรรพคุณครอบจักรวาล สามารถรักษาได้สารพัดโรค ซึ่งสรรพคุณที่มักกล่าวล้างเกินจริง อาทิเช่น  กินแล้วจะเจริญอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น เช่น ยาดองเหล้า ยาสมุนไพร บางชนิด
             - กินแล้วจะทำให้มีกำลัง สามารถทำงานได้ทนนาน
             -กินแล้วทำให้มีพลังทางเพศเพิ่มขึ้น เช่น ยาดองเหล้า ยาดองอวัยวะซากสัตว์ อุ้งตีนหมี ดีงูเห่า ฯลฯ
           - กินแล้วจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี นอนหลับสบาย ผิวพรรณผ่องใส เช่น ยาฟอกเลือด ยาสตรี ยาขับระดู ฯลฯ
        - กินแล้วทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาว อวัยวะบางส่วนใหญ่ขึ้น เช่น เขากวาง และกวาวเครือแดง เสริม ความหนุ่ม กวาวเครือขาวเสริมทรวงอก และความสาว เป็นด้น
              -กินแล้วจะช่วยชะลอความแก,หรือความเสื่อมของอวัยวะ เช่น รังนกซึ่งทำจากนี้าลายของ นกนางแอ่น หูฉลามหรือครีบของฉลาม หรือโสม ซึ่งส่วนใหญ่มีราคาแพงไม่คุ้มค่ากับประโยชน์ที่ร่างกาย ได้รับจริง ๆ
            -กินแล้วรักษาอาการปวดเมื่อย ไขข้ออักเสบเรือรัง เช่น ยาชุดต่าง ๆ ยาแก้กระษัยไตพิการ ซึ่งมัก ผสมสารหนูที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมาก เพราะผู้ใช้อาจมักติดยาต้องรับประทานเพิ่มขึ้นจึงเกิดการ สะสมพิษ เมื่อเกิดอันตรายมักมีอาการรุนแรงยากแก,การรักษา
ทั้งนี้การใช้ยาดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดจากความเชื่อผิด ๆ หรือเชื่อในคำโฆษณาเกินจริง ที่แฝงมาด้วยภัยเงียบที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหากใช้อย่างต่อเนื่องและใช้ในจำนวนมาก นอกจากนี้ยังทำให้ เสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่,เกิดประโยชน์ต่อร่างกายไม่มีผลในการรักษาอาการต่าง ๆ ตามสรรพคุณที่ กล่าวล้าง ดังนั้น ค่อนจะซื้อหายาหรือผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพมาใช้ ควรศึกษาสรรพคุณ ส่วนประกอบ แหล่งผลิต วันหมดอายุ และความน่าเชื่อลือของผู้ผลิตโดยพิจารณาจากมีเลขทะเบียนถูกต้องหรือไม่ มีดรา อย. หรือมีใบอนุญาตการผลิต ใบประกอบโรคศิลปะแพทย์แผนโบราณ เป็นด้น
ความเชื่อและข้อควรระวังในการใช้ยาชุด ยาดองเหล้า และยาชงสมุนไพร
                                   1. ยาชุด
ยาชุด หมายถึง ยาที่ผู้ขายจัดรวมไว้ให้ดัยบผู้ซื้อ สำหรับให้กินครั้งละ 1 ชุด รวมกันหมด โดยไม่แยกว่าเป็นยาชนิดใด ควรจะกินเวลาไหน โดยทั่วไปมักจะมียา ตั้งแต่ 3 - 5 เม็ด หรืออาจมากกว่าและอาจ จัดรวมไว้ในซองพลาสติกเล็กๆ พิมพ์ฉลากบ่งบอกสรรพคุณไว้เสร็จ
สรรพคุณที่พิมพ์ไว้บนซองยาชุด มักโอ้อวดเกินความจริง เพื่อให้ขายได้มาก ชื่อที่ตั้งไว้จะเป็น ชื่อที่ดึงดูดความสนใจหรือโอ้อวดสรรพคุณ เช่น ยาชุดกระจายเสัน ยาชุดประดงขุนแผน ยาชุดแอ้ ไข้มาลาเรียเป็นด้น
เนื่องจากผู้จัดยาชุดไม่มีความ!เรื่องยาอย่างแท้จริงและมักจะมุ่งผลประโยชน์เป็นสำคัญ ดังนั้น ผู้ใช้ยาชุดจึงมีโอกาสได้รับอันตรายจากยาสูงมาก
อันตรายจากการใช้ยาชุด
                      1.ได้รับตัวยาซํ้าซ้อน ทำให้ได้รับตัวยาเกินขนาด เช่น ในยาชุดแอ้ปวดเมื่อย ในยาชุดหนึ่งๆ อาจมียาแอ้ปวด 2-3 เม็ด ก็ได้ ซึ่งยาแอ้ปวดนี้จะอยู่ในรูปแบบต่างคัน อาจเป็นยาคนละสีหรือขนาดเม็ดยา ไม่เท่าคัน แด,มีตัวยาแอ้ปวดเหมือนคัน การที่ได้รับยาเกินขนาดทำให้ผู้ใช้ยาได้รับพิษจากยาเพิ่มขึ้น
                      2.ได้รับยาเกินความจำเป็น เช่น ในยาชุดแอ้หวัดจะมียาแอ้ปวดลดไข้ ยาปฏิชีวนะยาลดน้ำมูกก ยาทำให้จมูกโล่ง ยาแอ้ไอ แต่จริงๆ แล้ว ยาปฏิชีวนะจะใช้รักษาไม่ได้ในอาการหวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส และอาการหวัดของแด,ละคนไม่เหมือนคัน ถ้าไม่ปวดหัวเป็นไข้ ยาแอ้ปวด ลดไข้ไม่,จำเป็น ไม่มีอาการไอ ไม่ควรใช้ยาแอ้ไอ การรักษาหวัด ควรใช้บรรเทาเฉพาะอาการที่เกิดขึ้นเท่านั้นไมจำเป็นต้องกินยาทุกชนิดที่ อยู่ในยาชุด
                   3.ในยาชุดมักมียาเสื่อมคุณภาพ หรือยาปลอมผสมอยู่ การเก็บรักษายาชุดที่อยู่ในซองพลาสติก จะไม่สามารถคันความชื้น ความร้อน หรือแสงได้ดีเท่าคับที่อยู่ในขวดที่บริษัทเติมผลิตมา ทำให้ยาเสื่อม คุณภาพเร็วนอกจากนั้นผู้จัดยาบางชุดบางรายต้องการกำไรมากจึงเอายาปลอมมาขายด้วย ซึ่งเป็นอันตรายมาก
                    4.ในยาชุดมักใส่ยาอันตรายมาก ๆ ลงไปด้วย เพื่อให้อาการของโรคบรรเทาลงอย่างรวดเร็ว เป็น ที่พอใจของผู้ชื้อทั้งผู้ขายโดยที่ยาจะไปบรรเทาอาการแต่ไม่ได้แอ้สาเหตุของโรคอย่างแท้จริง อาจทำให้ โรคเป็นมากขึ้น
ยาที่มีอันตรายสูงมากและจัดอยู่ในยาชุดเกือบทุกชนิด คือ ยาสเดียรอยด์ หรือที่เรียกว่ายา ครอบจักรวาลนิยมใส่ในยาชุด เพราะมีฤทธิบรรเทาอาการได้มากมายหลายอย่าง ทำให้อาการของโรค ทุเลาลงเร็วแด,จะไม่,รักษาโรคให้หาย ยาสเดียรอยด์ เช่น เพรดนิโซโลน เดกซาเมธาโซน ทำให้เกิดอันตราย ต่อผู้ใช้สูงมากทำให้เกิดอาการบวมน้ำ ความตันโลหิตสูง หัวใจทำงานหนัก หน้าบวม กลมเหมือน พระจันทร์ ทำให้กระลูกพรุน เปราะหักง่าย กระเพาะอาหารเป็นแผล ความด้านทานโรคลดลงและทำให้ เกิดความผิดปกติด้านประสาทจิตใจ
              5.ผู้ที่ใช้ยาชุดจะได้ยาไมครบขนาดรักษาที่พบบ่อยคือการได้รับยาปฏิชีวนะเพราะการใช้ยา ปฏิชีวนะต้องกินอย่างน้อย 3-5 วัน วันละ 2-4 ครั้ง แล้วแด,ชนิดของยา แด,ผู้ชื้อยาชุดจะกินยาเพียง 3-4 ชุด โดยอาจกินหมดในหนึ่งวัน หรือกินวันละชุด ซึ่งทำให้ได้รับยาไม่ครบขนาด โรคไม่หายและกลับดื้อยา อีกด้วย
การใช้ยาชุดจึงทำให้เสียคุณภาพ การใช้ยาไม่ถูกโรค ทำให้โรคไม่หายเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยเสี่ยง อันตรายจากการใช้ยาโดยไม่จำเป็นสิ้นเปลืองเงินทองในการรักษา
                      2. ยาดองเหล้า และยาเลือด
หลายคนอาจเคยเห็นและเคยรับประทานยาชนิดนี้มาบ้างแล้ว แต่เดิมยากลุ่มนี้จะใช้ในกลุ่มสตรี เพื่อบำรุงเลือด ระดูไม่ปกติ และใช้ในกลุ่มสตรีหลังการคลอดบุตร เพื่อใช้แทนการอยู่ไฟ ส่วนประกอบ ของตัวยาจะมีสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อนหลายชนิด เช่น รากเจตมูลเพลิงแดง กระเทียม พริกไทย เทียนขาว เปลือกอบเชยเทศ ขิง และส่วนผสมอื่นๆ แล้วแต่ชนิดของตำรับ มีขายทั้งที่เป็นชิ้นส่วนสมุนไพรและที่ ผลิตสำเร็จรูปเป็นยาผงและยานี้าขาย ส่วนใหญ่ยาในกลุ่มนี้ยากที่จะระบุถึงสรรพคุณที่แบ้จริง เนื่องจากยัง ขาดข้อมูล ผลของการทดลองทางคลินิกเท่าที่ทราบมีเพียงส่วนประกอบของตัวยาซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาร นี้ามันหอมระเหยและสารเผ็ดร้อนหลายชนิด เมื่อรับประทานเช้าสู่ร่างกายจะเสึกร้อน กระตุ้นการ ไหลเวียนโลหิต สมุนไพรหลายชนิดในตำรับ เช่น เจตมูลเพลิงแดง และกระเทียม มีรายงานว่าสามารถ กระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และมีรายงานการทดลองในหนูเพศเมีย เมื่อได้รับยาจะทำให้ลดการ ตั้งครรภ์ได้ จึงเป็นข้อที่ควรระวังในผู้ที่ตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานยากลุ่มนี้อาจทำให้แท้งได้ และหลาย ตำรับจะมีการดองเหล้าด้วย เมื่อรับประทานทำให้เจริญอาหารและล้วนขึ้น การล้วนมักเกิดจาก แอลกอฮอล์ (เหล้า) ที่ไปลดการสร้างพลังงานที่เกิดจากกรดไขมัน (Fatty acid) จึงมีการสะสมของไขมัน ในร่างกาย และอาจเกิดตับแข็งได้ล้ารับประทานในปริมาณมาก ๆ และติดต่อกันทุกวัน นอกจากนี้การดื่ม เหล้าอาจทำให้เด็กทารกที่อยู่ในครรภ์เกิดการพิการได้ ในเรื่องยาเลือดนี้อาจมีความเชื่อและใช้กันผิดๆ คือ การนำยาเลือดสมุนไพรไปใช้เป็นยาทำแท้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อการตั้งครรภ์เกิน 1 เดือน เนื่องจากไม่ค่อยได้ผล และผลจากการกระตุ้น การบีบตัวและระคายเคืองต่อผนังมดลูกที่เกิดจาก การให้ยาอาจทำให้เกิดการทำลายของเยื่อบุผนังมดลูกบางส่วนเป็นเหตุให้ทารกเกิดมาพิการได้
                        3.ยาชงสมุนไพร
การใช้ยาสมุนไพรเป็นที่นิยมกันในหลายประเทศทั้งทางประเทศยุโรปและเอเชียในประเทศ ไทยบัจจุบันพบมาก มีการเพิ่มจำนวนชนิดของสมุนไพรมาทำเป็นยาชงมากขึ้น เช่น ยาชงดอกคำฝอย หญ้าหนวดแมว หญ้าดอกขาว เป็นด้น
ข้อดีของยาชงคือ มักจะใช้สมุนไพรเดี่ยวๆ เพียงชนิดเดียว เมื่อใช้กินแล้วเกิดอาการกันไม่
พึงประสงค์อย่างไรก็ตามสามารถเว่าเกิดจากสมุนไพรชนิดใดต่างกับตำรายาผสมที่เราไม่สามารถเได้เลย ในต่างประเทศมีรายงานเรื่องความเป็นพิษที่เกิดจากยาชงสมุนไพรที่มีขายในบ้องตลาดกันมาก และเกิดได้ หลายอาการ

สำหรับประเทศไทย รายงานด้านนี้ยังไม่พบมากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่มีการเลือกใช้สมุนไพร ที่ค่อนช้างปลอดภัย แต่ที่ควรระวังมีชาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของใบหรือฟกมะขามแขก ใช้ประโยชน์เป็น ยาระบายบ้อง บางยี่ห้อระบุเป็นยาลดความล้วนหรือรับประทานแล้วจะทำให้ทุ่นเพรียวขึ้นอาการที่เกิดคือสาเหตุจากมะขามแขกซึ่งเป็นสารกลุ่มแอนทราควิโนน (Antharquinone) จะไปกระตุ้นการบีบตัวของ ลำไห้ใหญ่ ทำให้เกิดการขับถ่าย การรับประทานบ่อยๆ จะทำให้ร่างกายได้รับการกระตุ้นจนเคยชิน เมื่อ หยุดรับประทานร่างกายจึงไม่,สามารถขับถ่ายได้เองตามปกติ มีอาการท้องผูกต้องกลับมาใช้ยาระบายอีก เรื่อย ๆ จึงไม่,ควรใช้ยาชนิดนี้ติดต่อกันนานๆ และหากจำเป็นควรเลือกยาที่ไปเพิ่มปริมาณกากและช่วย หล่อลื่นอุจจาระโดยไม่ ดูดซึมเช้าสู่ร่างกาย เช่น สารสกัดจากหัวบุกจะปลอดภัยกว่า แด,การรับประทาน ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้ร่างกายได้รับไขมันน้อยกว่าความต้องการก็ได้ เพราะร่างกายเราต้องการไขมัน ต่อการดำรงชีพด้วย



สารกลุ่ม แอนทราควิโนน





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น