วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

8.4 ทักษะการจัดการความเครียด

(เนื้อหา) ความเครียดคือ การหดตัวของกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งหรือหลายส่วนของร่างกายนั่นเอง ซึ่งทุกคนจำเป็นต้องมีอยู่เสมอในการดำรงชีวิต เช่น การทรงตัวเคลื่อนไหวทั่ว ๆ ไป มีการศึกษาพบว่า ทุกครั้งที่เราคิดหรือมีอารมณ์บางอย่างเกิดขึ้นจะต้องมีการหดตัว เคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแห่งใด แห่งหนึ่งในร่างกายเกิดขึ้นควบคู,เสมอ
ความเครียดมีทั้งประโยชน์และโทษ แด,ความเครียดที่เป็นโทษนั้น เป็นความเครียดชนิดที่เกิน ความจำเป็น แทนที่จะเป็นประโยชน์กลับกลายเป็นอุปสรรคและอันตรายต่อชีวิต เมื่อคนเราอยู่ในภาวะ ตึงเครียดร่างกายจะเกิดความเตรียมพร้อมที่จะ “สู;” หรือ “หนี” โดยที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นแรงและเร็วขึ้น เพื่อฉีดเลือดซึ่งจะนำออกซิเจนและสารอาหารต่าง ๆ ไปเลี้ยงเซลล์ทั่วร่างกาย พร้อมกับขจัดของเสียออกจากกระแสเลือดอย่างเร็ว การหายใจดีขึ้น แด,เป็นการหายใจตื้น ๆ มีการขับ อดรีนาลีนและฮอร์โมนลื่น ๆ เข้าสู่กระแสเลือด ม่านตาขยายเพื่อให้ไต้รับแสงมากขึ้น กล้ามเนื้อหดเกร็ง เพื่อเตรียมการเคลื่อนไหว เสันเลือดบริเวณอวัยวะย่อยอาหารหดตัว เหงื่อออก เพราะมีการเผาผลาญอาหาร มากขึ้น ทำให้อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้น เมื่อวิกฤติการณ์ผ่านพ้นไปร่างกายจะกลับสู่สภาวะปกติ แด,ความเครียดที่เป็นอันตราย คือความเครียดที่เกิดขึ้นมากเกินความจำเป็น เมื่อเกิดแล้วคงอยู่เป็นประจำ ไม,ลดหรือหายไปตามปกติ หรือเกิดขึ้นโดยไม,มีเหตุการณ์ที่เป็นการคุกคามจริง ๆ
ผลต่อสุขภาพทางกาย ได้แก่ อาการไม,สบายทางกายต่าง ๆ เช่น ปวดหัว ปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ความผิดปกติของหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะ อาการท้องผูก ท้องเสียบ่อย นอนไม,หลับ หอบหืด เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ
ผลต่อสุขภาพจิตใจ นำไปสู่ความวิตกกังวล ซึมเศร้า กลัวอย่างไร้เหตุผล อารมณ์ไม,มั่นคง เปลี่ยนแปลงง่ายหรือโรคประสาทบางอย่าง สาเหตุของความเครียด
                         -สภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น มลภาวะ ได้แก่ เสียงดังเกินไปจากเครื่องจักร เครื่องยนต์ อากาศ เสียจากควันท่อไอเสีย นาเสีย ผ่นละออง ยาฆ่าแมลง การอยู่กันอย่างเบียดเสียดยัดเยียด เป็นด้น
                       -สภาพเศรษฐกิจที่ไม,น่าพอใจ เช่น รายได้น้อยกว่ารายจ่าย เป็นด้น
                       -สภาพแวดล้อมทางสังคม เช่น การสอบแข่งขันเข้าเรียน เข้าท่างาน เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง
เป็นด้น
                        -มีสัมพันธภาพกับคนลื่น ๆ ที่ไม,ราบรื่น มักมีข้อขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้งกับคนลื่นเป็นปกติวิสัย
                        -ความรู้สึกตนเองตํ่าด้อยกว่าคนลื่น ต้องพยายามต่อสัเอาชนะ
                          -ต้องการมีอำนาจเหนือผู้ลื่น วิธีลดความเครียด มีหลายวิธี
           1.วิธีแก้ไขที่ปลายเหตุ ได้แก่ การใช้ยา เช่น ยาหม่อง ยาดม ยาแก้ปวด ยาลดกรดในกระเพาะ ยากล่อมประสาท แด,วิธีการดังกล่าวไม,ได้แก้ไขความเครียดที่ด้นเหตุ อาจท่าให้ความเครียดนั้นเกิดขั้นได้อีก
           2.วิธีแก้ไขที่ด้นเหตุ ได้แก่ แก้ไขเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่เอื้ออำนวยต่อการก่อให้เกิดความเครียด เช่น หางานอติเรกที่ชอบท่า!เกออกกำลังกาย บริหารร่างกายแบบง่าย ๆ เป็นด้น
           3.เปลี่ยนแปลงนิสัยและทัศนคติต่อการตำเนินชีวิต เช่น ลดการแข่งขัน ผ่อนปรน ลดความ เข้มงวดในเรื่องต่างๆ
            4.หาความเความเข้าใจเกี่ยวกับโภชนาการ
            5.สำรวจและเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อตัวเองและผู้ลื่น เช่น มองตัวเองในแง,ดี มองผู้ลื่นในแง,ดี
เป็นด้น
            6.สำรวจและปรับปรุงสัมพันธภาพต่อคนในครอบครัวและสังคมภายนอก
            7.แกผ่อนคลายโดยตรง เช่น การแกหายใจให้ถูกวิธี การ'แกสมาธิ การออกกำลังกายแบบง่ายๆ การแกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การนวด การสำรวจท่านั่ง นอน ยืน เดิน การใช้จิตนาการ นึกภาพที่รื่นรมย์
เมื่อเกิดความเครียดขั้นมา ลองพยายามนึกทบทวนดูว่า เกิดจากสาเหตุอะไร และเลือกใช้วิธีลด ความเครียดดังกล่าวที่กล่าวมาวิธีใดวิธีหนึ่งหรือหลายวิธีร่วมกัน อาจท่าให้ความเครียดผ่อนคลายหรือ ไม่,เครียดเลยก็ได้
 
  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น