วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

7.3 กฎหมายที่เที่ยวข้องกับสารเสพติด

          เรื่องที่ 3 กฎหมายที่เที่ยวข้องกับสารเสพติด
          “ยาเสพติดเป็นภัยต่อชีวิตเป็นพิษต่อสังคม”เป็นคำกล่าวที่แสดงความถึงภาพของยาเสพติดเป็นอย่างดี  ในปัจจุบันปัญหาเรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาที่ทุกชาติให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการป้องกันปราบปรามและลือว่าเป็นความผิดสากลซึ่งแด,ละชาติสามารถจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติดไต้ทันที
         กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดไต้ให้ความหมายของกำว่ายาเสพติดไว้ตังนี้ “สารเคมีหรือวัตถุชนิดใด ๆ ซึ่งเมื่อเสพเช้าสู่ร่างกายไม,ว่าจะโดยรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยประการใด ๆ แล้วทำให้เกิดผลต่อ ร่างกายและจิตใจในลักษณะสำคัญ เช่น ต้องเพิ่มขนาดการเสพขึ้นเป็นลำดับ มีอาการถอนยาเมื่อขาดยา มีความต้องการเสพทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงตลอดเวลา และสุขภาพโดยทั่วไปจะทรุดโทรมลง รวมถึงพืชหรือส่วนของพืชที่เป็นหรือให้ผลผลิตเป็นยาเสพติดให้โทษ หรืออาจใช้ผลิตเป็นยาเสพติด ให้โทษและสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษด้วย” จากความหมายของยาเสพติดทำให้ทราบว่า อะไรบ้างที่เช้าลักษณะของยาเสพติด พืชอาจเป็นยาเสพติดไต้ ถ้าเสพแล้วเกิดผลต่อร่างกายและจิตใจจน ขาดไม,ไต้ มิใช่เฉพาะแต่เฮโรอีน ซึ่งเป็นสิ่งสังเคราะห์เท่านั้นที่เป็นยาเสพติดให้โท
             ประเภทของยาเสพติดและบทลงโทษตามกฎหมาย
          ตามกฎหมายไต้แบ่ง ประเภทของยาเสพติดให้โทษแบ่งออกเป็น 5 ประเภท
ประเภท 1 ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง เช่น เฮโรอีน‘ป่นเป็นต้น
ห้ามมิให้ผู้ใด ผลิต จำหน่าย นำเช้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เว้นแต่เพื่อประโยชน์ทางราชการตามที่ รมต.ฯ อนุญาตเป็นหนังสือเฉพาะราย ผู้ฝ่าแนระวางโทษตั้งแต่ 1 ปีถึงประหารชีวิต แล้วแต่จำนวนยาเสพติดที่จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง
ประเภท 2 ยาเสพติดให้โทษทั่วไป เช่น มอร์ฟีน กฎหมายห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเช้า หรือส่งออก ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 แต่สามารถ จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองไต้เมื่อไต้รับอนุญาตจากเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาหรือผู้ซึ่ง ไต้รับมอบหมายหรือสาธารณสุขจังหวัด สำหรับการมีไว้ในครอบครองที่ไม,เกินจำนวนที่จำเป็นสำหรับ ใช้รักษาโรคเฉพาะตัว โดยมีหนังสือรับรองของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม,ต้องขออนุญาต ผู้ฝ่าปีน ระวางโทษจำคุกไม,เกิน 5 ปี ถึงจำคุกตลอดชีวิตแล้วแต่ความหนักเบาของความผิด
ประเภท 3 ยาเสพติดให้โทษที่มียาเสพติดประเภท 2 เป็นส่วนผสมอยู่ด้วย เช่น ยาแล้ไอผสม โคเคอีน เป็นต้น
กฎหมายห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเช้า หรือส่งออก ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 3 เว้นแต่ไต้รับ อนุญาต ซึ่งต้องเป็นร้านค้าที่ไต้รับอนุญาตให้ผลิต ขายนำหรือส่งเช้าในราชอาณาจักรประเภทยาแผน ป็จจุบันและมีเภสัชกรประจำตลอดเวลาที่เปิดทำการ ผู้ฝ่าปีนระวางโทษจำคุกไม,เกิน 1ปีถึงจำคุกไม,เกิน 3 ปี 
ประเภท 4 สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือประเภท 2 กฎหมายห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเช้า หรือส่งออกหรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษ ประเภท4เว้นแต่รัฐมนตรีอนุญาตผู้ฝ่าปีนระวางโทษจำคุกตั้งแต่1ปี-10ปี
ประเภท 5 ยาเสพติดให้โทษที่มิไต้เช้าอยู่ในประเภท 1 ถึงประเภท 4 เช่น กัญชา พืชกระท่อม เป็นต้น กฎหมายมิให้ผู้ใดผลิต จำหน่าย นำเช้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษ ประเภท5เว้นแต่รัฐมนตรีอนุญาตผู้ฝ่าปีนระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปี — 15 ปี
ตามพระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533 กำหนด มาตรการควบคุมไม,ให้นำสารระเหยมาใช้ในทางที่ผิดไว้หลายประการและกำหนดให้ผู้ฝ่าปีนไม,ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว มีความผิด และต้องรับโทษ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
                    1.กำหนดให้ผู้ผลิต ผู้นำเช้า หรือผู้ขายสารระเหย ต้องจัดให้มีภาพหรือข้อความที่ภาชนะบรรจุ หรือหีบห่อบรรจุสารระเหย เพื่อเป็นการเตือนให้ระวังการใช้สารระเหยดังกล่าว ผู้ฝ่าแนต้องรับโทษจำคุก ไม,เกินสองปีหรือปรับไม,เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                    2.ห้ามไม,ให้ผู้ใดขายสารระเหยแก,ผู้ที่มีอายุตํ่ากว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ เว้นแด,เป็นการขายโดย สถานศึกษาเพื่อใช้ในการเรียนการสอน ผู้ฝ่าแนต้องรับโทษจำคุกไม,เกินหนึ่งปี หรือปรับไม,เกินหนึ่งหมื่น บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                     3.ห้ามไม,ให้ผู้ใดขาย จัดหา หรือให้สารระเหยแก,ผู้อื่นซึ่งตนเหรือควรเว่าเป็นผู้ติดสารระเหย ผู้ฝ่าแนต้องรับโทษจำคุกไม,เกินสองปี หรือปรับไม,เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                 4.ห้ามไม,ให้ผู้ใดจูงใจ ชักนำ ยุยงส่งเสริม หรือใช้อุบายหลอกลวงให้บุคคลอื่นใช้สารระเหย บำบัดความต้องการของร่างกายหรือจิตใจ ผู้ฝ่าแนต้องรับโทษจำคุกไม,เกินสองปี หรือปรับไม,เกินสอง หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                       5.ห้ามไม,ให้ผู้ใดใช้สารระเหยบำบัดความต้องการของร่างกายหรือ จิตใจ ไม,ว่าโดยวิธีสูดดมวิธี อื่นใด ผู้ฝ่าแนต้องรับโทษจำคุกไม,เกินสองปีหรือปรับไม,เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 พึงระลึกเสมอว่า การเสพติดสารระเหย นอกจากจะเป็นโทษต่อร่างกายแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย
ทั้งนี้กฎหมายที่เกี่ยวช้องกับยาเสพติด ที่มีการออกพระราชบัญญัติและระเบียบต่างๆ ใช้กันอยู่ใน ปัจจุบันมีหลายฉบับ ซึ่งสามารถจัดเป็นกลุ่มๆ ได้ คือ
                     1.กฎหมายที่เกี่ยวกับตัวยา ได้แก่
1.1   พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
           1.2พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545
           1.3พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกถุทธต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2528 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535
           1.4พระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533
           1.5พระราชบัญญัติควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2495
                      2.กฎหมายที่เกี่ยวกับมาตรการ ได้แก่
            2.1พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519
            2.2พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2545
            2.3พระราชบัญญัติปีนฟูสมรรภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545

           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น