ความคิดผิด ๆ นั้น ความจริงเป็นแค่ความคิดเท่านั้น ถ้ายังไม่ได้กระทำ ย่อมไม่ถือว่าเป็นความผิด เพราะการกระทำยังไม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเรื่องเพศนั้น ถ้าคิดใหม่ ทำใหม่เสีย ก็จะ ไม่เกิดผลร้ายในการดำเนินชีวิตประจำวัน เรื่องราวเกี่ยวกับเพศได้รับการปกปิดมานานแล้ว จนข่าวลือและ ความเชื่อผิด ๆ แต่โบราณ ยังคงได้รับการร่ำลือต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงยุคปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นความเชื่อ
ผิด ๆ ความเข้าใจผิด ๆ ทางเพศ ที่องค์การอนามัยโลกได้ตีพิมพ์ไว้ มีดังนี้
1. ผู้ชายไม่ควรแสดงอารมณ์และความรู้สึกเกี่ยวกับความรัก
เพราะคำร่ำลือที่ว่า ผู้ชายไม่ควรแสดงอารมณ์และความรู้สึกเกี่ยวกับความรักให้ ออกนอกหน้า ไม่อย่างนั้นจะไม่เป็นชายสมชาย ผู้ชายจึงแสดงออกถึงความรักผ่านการมีเพศสัมพันธ์ จน เหมือนว่าผู้ชายเกิดมาเพื่อจะมีเซ็กส์ ทั้ง ๆ ที่ด้องการจะระบายความรักออกไปเท่านั้นเอง แท้จริงแล้ว ผู้ชาย สามารถจะแสดงอารมณ์รักออกมาทางสีหน้าแววตา การกระทำอะไรต่อมิอะไรได้เช่นผู้หญิง และการมี เพศสัมพันธ์ก็เป็นส่วนหนึ่งของการบอกรักด้วยภาษากายเท่านั้น การแสดงความรักที่ซาบซึ้งแบบอื่น ผู้ชายทำได้เช่นเดียวกับหญิงและหญิงก็ต้องการด้วย
2. การถูกเนื้อต้องตัวจะนำไปสู่การมีเซ็กส์
เพราะความเชื่อที่ว่า ถ้าผู้หญิงยอมให้ผู้ชายถูกเนื้อต้องตัวแล้ว แสดงว่าตัวเองมีใจกับเขา เขาจึงพยายามต่อไปที่จะมีสัมพันธ์สวาทที่ลึกซึ้งกว่านั้นกับเธอ เป็นความเข้าใจผิดแท้ ๆ เพราะบางครั้ง ผู้หญิงแค่ต้องการความอบอุ่นและประทับใจกับแฟนของเธอเท่านั้น โดยไม่ได้คิดอะไรเลยเถิดไป ขนาดนั้นเลย การจับมือกัน การโอบกอดสัมผัสกายของกันและกัน แท้ที่จริงเป็นการถ่ายทอดความรักที่ บริสุทธิ์ ที่สามารถจะสัมผัสจับต้องได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องมีการร่วมรักกันต่อไปเลย และไม่ควรที่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง จะกดตันให้อีกฝ่ายต้องมีเซ็กส์ด้วย
3. การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงจะนำไปสู่การสุขสมที่มากกว่า
เป็นความเข้าใจผิดกันมานานนักแล้วว่า ผู้ชายที่มีพละกำลังมาก ๆ จะสามารถมีเพศสัมพันธ์ กับหญิงสาวได้รวดเร็วรุนแรงและทำให้เธอไปถึงจุดสุดยอดได้ง่าย รวมทั้งมีความเข้าใจผิดเสมอ ๆ ว่า อาวุธประจำกายของฝ่ายชายที่ใหญ่เท่านั้นที่จะทำให้ผู้หญิงมีความสุขได้ แท้จริงแล้วการมีสัมพันธ์สวาทที่ อบอุ่นเนิ่นนานเข้าใจกัน ช่วยกันประกับประคองนาวารักให้ผ่านคลื่นลมมรสุมสวาทจนบรรลุถึงฝั่งฝัน ต่างหาก ที่นำความสุขสมมาสู่คนทั้งสองได้มากกว่า สัมพันธ์สวาทจึงควรที่จะเกิดขึ้นในบรรยากาศที่แสน จะผ่อนคลายและโรแมนติก
4. การมีความสัมพันธ์ทางเพศก็คือการร่วมรัก
เป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่งและสมควรได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องเพราะเซ็กส์ก็คือ การร่วมรัก การแสดงความรักผ่านภาษากาย เป็นสัมผัสรักที่คนสองคนถ่ายทอดให้แก่กันจากการสัมผัสทางผิวกาย ส่วนไหนก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะส่วนนั้นเท่านั้น
5. ผู้ชายควรเป็นผู้นำในการร่วมรัก
เรื่องนี้ยังคงเป็นความเชื่อผิด ๆ ไม่ว่ารักผู้หญิงหรือผู้ชายที่มีหัวอนุรักษ์นิยม มักจะคิดเสมอ ๆ ว่าการจะมีอะไรกันนั้นผู้ชายต้องเป็นคนกระทำและผู้หญิงเป็นผ่ายรองรับการกระทำนั้น แท้จริงแล้ว การร่วมรัก เป็นกระบวนการที่คนสองคนสามารถปรับเปลี่ยนเป็นฝ่ายนำ ในการกระทำไต้โดยเสมอภาค ซึ่งกันและกัน
6. ผู้หญิงไม่ควรจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน
ตามที่เล่าแจ้งแถลงไขในข้อที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า เซ็กส์เป็นการสื่อสาร 2 ทางระหว่าง คน 2 คน ที่จะร่วมมือกันบรรเลงบทเพลงแห่งความพิศวาส ซึ่งต้องผลัดกันนำผลัดกันตามและต้องช่วยกัน โล้ ช่วยกันพายนาวารักไปยังจุดหมายปลายทางแห่งความสุขสมร่วมกัน
7. ผู้ชายนึกถึงแต่เรื่องเซ็กส์ตลอดเวลา
มีคำกล่าวผิด ๆ ที่พูดกันต่อเนื่องมาว่า ผู้ชายนึกถึงแต่เรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ที่เรียกกัน สั้นๆ ว่าเซ็กส์อยู่ตลอด ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงคือ ผู้ชายไม่ได้คิดถึงเรื่องเซ็กส์อยู่ตลอดเวลา เขาคิดถึงเรื่อง อื่นอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องครอบครัว เพียงแต่ผู้ชายพร้อมจะมีเซ็กส์เสมอและไม่ได้ หมายความว่า เมื่อเขาพร้อมที่จะมีเซ็กส์แล้ว เขาจำเป็นจะต้องมีเสมอไป
8. ผู้หญิงด้องพร้อมเสมอที่จะมีเซ็กส์เมื่อสามีด้องการ
ที่จริงในยุคนี้ไม่,มีความจำเป็นแบบนั้นเลย ในอดีตอาจจะใช่แต่ไม่ใช่ในยุคไอทีแบบนี้ที่ผู้ชาย และผู้หญิงเท่าเทียมกัน และการจะมีเซ็กส์กันก็เป็นกิจกรรมร่วมที่คนสองคนจะต้องใจตรงกันก่อน ไม่ใช่ แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการแล้วอีกฝ่ายจะต้องยอม
9. เซ็กส์ เป็นเรื่องธรรมชาติไม่ด้องเรียนรู้
ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะพยายามพูดเสมอ ๆ ว่า เพศศึกษาไม่สำคัญ ทำไมรุ่นก่อน ๆ ไม่,ต้องเตรียมตัว ในการเรียนรู้เลย ก็สามารถที่จะมีเซ็กส์กันจนมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองได้ การเตรียมตัวที่ดีย่อมมีชัย ไปกว่าครึ่ง เรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนสองคนก็เช่นกัน สามารถเรียนรู้วิธีการที่จะเพิ่มความสุข ให้แก่,กันและกันได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั้น
อิทธิพลของสื่อต่อปัญหาทางเพศ
ปัจจุบันสื่อมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของทุกคนเทียบทุกต้านรวมถึงต้านปัญหาทางเพศด้วย เพราะสื่อมีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจของคนในสังคม ทุกคนจึงต้องบริโภคข่าวสารอยู่ตลอดเวลา เช่น การชมรายการข่าวทางทีวีทุกเช้า การอ่านหนังสือพิมพ์ หรือเล่นอินเตอร์เห็ด ซึ่งบางคนอาจจะใช้บริการ รับข่าวสารทาง SMS เป็นต้น สื่อจึงกลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความคิดและความรู้สึกและการตัดสินใจที่ สำคัญของคนในสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม,ไต้
จากปัจจัยตังกล่าวอิทธิพลของสื่อจึงย่อมที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในทุก ๆ ภาคส่วนของ สังคมไม,ว่าจะเป็นสังคมเมืองหรือแม้แต่ในสังคมชนบทก็ตาม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นย่อมที่จะเกิดขึ้นได้ ทั้งทางที่ดี,ขึ้นและทางที่แย่ลง และสิ่งสำคัญสื่อคือสิ่งที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อทุก ๆ คนในสังคมไม,ว่าจะเด็ก วัยรุ่นหรือกระทั่งผู้ใหญ่ อิทธิพลของสื่อที่นับวันจะรุนแรงมากขึ้น ไม,ว่าจากสภาพเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของสังคม เนื่องมาจากความพยายามในการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าใน ต้านต่าง ๆ เพื่อให้ทัดเทียมคับนานาประเทศ ก่อให้เกิดวัฒนธรรมที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย โดยผ่านสื่อ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์และอินเตอร์เน็ต สื่อจึงกลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิต และนำพาไปสู่ปัญหาและผลกระทบหลาย ๆ ต้าน ของชีวิตแบบเดิม ๆ ของสังคมไทยให้เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งล้วนมาจากการรับสื่อและอิทธิพลสื่อยังทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เช่น ข่าวอาชญากรรม ข่าวสงคราม ภาพยนตร์หรือละครที่เนื้อหารุนแรง ต่อสู้กันตลอดจนสื่อลามกอนาจาร ซึ่งส่งผลให้เด็กและ คนที่รับสื่อจิตนาการตามและเกิดการเลียนแบบ โดยจะเห็นไต้บ่อยครั้งจากการที่เด็กหรือคนที่ก่อ อาชญากรรมหลายคดี โดยบอกว่าเลียนแบบมาจากหนัง จากสื่อต่าง ๆ แม้กระทั่งการแต่งกายตามแฟชั่น ของวัยรุ่น การก่ออาชญากรรม การก่อม็อบ การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ความรุนแรงทางเพศ ที่เกิดขึ้นอยู่ในสังคมไทยขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากอิทธิพลของสื่อ
สื่อมวลชนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเข้าไปมีบทบาทและมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของ คนในสังคม มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา บางสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่บางสิ่งค่อย ๆ จางหายไปทีละเล็กละน้อย จนหมดไปในที่สุด เช่น การที่ประเทศก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารทำ ให้ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมคนไทย ทั้งสังคมเมืองและสังคมชนบท มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่จากการที่เราไม,สามารถปฏิเสธการรับข่าวสาร ความบันเทิงจากสื่อไต้ แต่เราสามารถเลือกรับสื่อที่ดี มีประโยชน์ไม่,รุนแรง และไม,ผิดธรรมนองคลองธรรมได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น